หยุุดงานประท้วง : ครูในอังกฤษและเวลส์กว่า 100,000 คน ผละงานขอค่าจ้างเพิ่ม

สหภาพการศึกษาแห่งชาติ (National Education Union—NEU) ระบุว่า โรงเรียนราว 23,000 แห่ง ได้รับผลกระทบและอาจจะต้องหยุดการเรียนการสอนจากการหยุดงานประท้วงของครูมากกว่า 100,000 คนในอังกฤษและเวลส์

ครูเป็นหนึ่งในคนทำงานราว 5 แสนคนที่เข้าร่วมหยุดงานประท้วง ที่ประกอบด้วยข้าราชการพลเรือน พนักงานขับรถประจำทางและรถไฟ และอาจารย์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งถือว่าเป็นการหยุดงานประท้วงครั้งใหญที่สุดในรอบทศวรรษ

ด้านจิลเลียน คีแกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของสหราชอาณาจักร เรียกการหยุดงานประท้วงนี้ว่า “น่าผิดหวังอย่างยิ่ง” โดยระบุว่า รัฐบาลได้ทำตามข้อเรียกร้องของทางสหภาพแล้วในการให้เงินสนับสนุนโรงเรียนในอังกฤษเพิ่ม 2,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 81,000 ล้านบาท)

NEU ระบุว่า มีสมาชิกใหม่ 40,000 คน นับตั้งแต่ประกาศว่า จะมีการหยุดงานประท้วงเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน หลายคนเป็นครูที่อยู่ในสหภาพการศึกษาอื่น ๆ ที่ยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะหยุดงานประท้วงได้อย่างถูกกฎหมาย

ครูคนหนึ่งจากเวสต์ยอร์กเชียร์ ซึ่งได้ย้ายจากสหภาพครูอีกแห่งหนึ่งมาอยู่ใน NEU เพื่อร่วมการหยุดงานประท้วงในวันที่ 1 ก.พ. กล่าวว่า เหตุผลหลักของเขาในการหยุดงานประท้วงคือ รัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเงินสำหรับขึ้นค่าจ้างที่ครูได้รับในปีนี้

“ครูกำลังจะได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะมาจากงบประมาณของทางโรงเรียนเอง” เขากล่าวกับบีบีซี

โรงเรียนของเขาต้องตัดลดงบประมาณในส่วนอื่น ๆ รวมถึงตัดลดเจ้าหน้าที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเรียนการสอน

สมาชิกของ NEU อีกคนบอกว่า เธอสอนหนังสือมา 5 ปีแล้ว และเห็นเพื่อนร่วมงานทิ้งอาชีพครูไปจำนวนมาก “เพราะเครียดและข้อเรียกร้องต่าง ๆ ในการทำงาน”

เธอรักการทำงานกับเด็ก ๆ และความท้าทายในการทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ แต่เธอบอกว่า ในปีที่แล้ว งานของเธอส่วนใหญ่กลายเป็นงานเอกสาร ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเด็กเป็นลำดับแรก

เธอเชื่อว่า แม้ว่าการหยุดงานประท้วงนี้จะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องค่าจ้างที่ครูเรียกร้อง แต่ก็จะช่วย “ดึงดูดความสนใจ” ต่อ “วิกฤตที่แท้จริงในอาชีพทางการศึกษานี้”

• สไตรก์ในอังกฤษ : ตม. อังกฤษผละงานช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ อาชีพไหนในสหราชอาณาจักรที่หยุดงานขอขึ้นค่าแรง
• ญี่ปุ่นล่าตัวมือดี ขู่วางระเบิดโรงเรียนหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ
• เด็กอัจฉริยะ : พบสมาชิก “รวมพลคนอัจฉริยะ” จิ๋ว ฝึกอ่านออกเสียงด้วยตนเอง ตั้งแต่วัย 2 ขวบ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของสหราชอาณาจักร กล่าวก่อนหน้านี้ว่า โรงเรียนส่วนใหญ่จะยังเปิดในวันนี้ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างจากวันที่มีการเรียนการสอนตามปกติ เพราะจำนวนพนักงานที่ลดลง

ขณะที่ NEU ระบุว่า เมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายที่ส่งมาจากอาสาสมัครและตัวแทนของโรงเรียนของ NEU 8,500 คน NEU ระบุว่า 85% ของโรงเรียนจะปิดทั้งหมดหรือบางส่วน ส่วนอีก 15% จะมีการเรียนการสอนเต็มที่

ทางสหภาพยังประเมินด้วยว่า มีสมาชิกมากกว่า 150,000 เข้าร่วมการหยุดงานประท้วง ข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า มีจำนวนครูในโรงเรียนระดับประถมศึกษา, มัธยมศึกษา, อนุบาล และโรงเรียนพิเศษของรัฐ รวมมากกว่า 500,000 คน โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขผลกระทบจากการหยุดงานประท้วงหลังจากนี้

ครูได้ค่าจ้างมากแค่ไหน

การหยุดงานประท้วงของครูเป็นเรื่องเกี่ยวกับค่าจ้าง แต่ตอนนี้พวกเขาได้ค่าจ้างมากแค่ไหน

ปีที่แล้วในอังกฤษ ครูได้ค่าจ้างเฉลี่ยที่ 38,982 ปอนด์ต่อปี ในเวลส์อยู่ที่ 39,009 ปอนด์ต่อปี และในสกอตแลนด์ 40,026 ต่อปี

ส่วนผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาเป็นครูในอังกฤษ ค่าจ้างรายปีจะเพิ่มเป็น 30,000 ปอนด์ในเดือน ก.ย. นี้

ขณะที่ครูใหญ่ในอังกฤษจะได้รับค่าจ้างเฉลี่ย 74,095 ปอนด์ต่อปี ส่วนครูระดับอาวุโสอื่น ๆ อยู่ที่ 57,117 ต่อปี

สหภาพครูหลายแห่งระบุว่า การขึ้นค่าจ้าง 5% ให้แก่ครูในโรงเรียนของรัฐส่วนใหญ่ ที่จริงแล้วคือการลดค่าจ้าง เพราะอัตราเงินเฟ้อสูงกว่านี้

ค่าจ้างที่ปรับขึ้นนี้ ไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากทางรัฐบาล ทำให้โรงเรียนต่าง ๆ ต้องหาเงินมาใช้ในส่วนนี้เอง ขณะที่ก็เผชิญกับค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูงขึ้นอยู่แล้ว ส่งผลทางโรงเรียนต้องตัดลดสิ่งต่าง ๆ ลง

อาชีพอื่น ๆ ที่หยุดงานในวันที่ 1 ก.พ.

– พนักงานมหาวิทยาลัย ข้าราชการพลเรือน เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง คนขับรถไฟและพนักงานบริษัทรถบัส

– สมาชิกสภาพบริการสาธารณะและการพาณิชย์ (Public and Commercial Services union) กว่า 1 แสนคน หยุดงานวันนี้

– คนขับรถไฟที่เป็นสมาชิกของสหภาพ Aslef ผละงานวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งจะกระทบต่อการเดินรถระหว่างเมืองทั่วอังกฤษ (England)

– สมาชิกสหพันธ์สหภาพผู้ใช้แรงงาน (Trade Unions Congress) ที่เป็นองค์กรร่มของสหภาพแรงงานในอังกฤษ ก็หยุดงานประท้วงกฎหมายฉบับใหม่ ที่กำหนดให้ต้องมีบริการพื้นฐานขั้นต่ำ หากพนักงานในหน่วยงานบริการสาธารณะจะหยุดงานประท้วง

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว