คุณแฟนเพจคับ ถ้าแนะนำร้านซีฟู้ดราคา 60-300 บาท จะตามไปชิมป่าวคับ
ร้านนี้ชายย้วยรับประกัน unseen แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ คนภายนอกไม่มีทางรู้จักเพราะตอนนี้เขาขายอยู่ในโครงการคอนโดมิเนียมหะ-รู-หะ-รา ยี่ห้อโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่กับโอเชี่ยน ซานมารีนา อยู่ชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยาเด้อคับ
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
นำเหนอแบบเร็วๆ ไม่ได้มีเวลาสอบถามอะไรมากมาย ดูเหมือนจะชื่อร้าน Lake House อะไรประมาณนี้แหละ
คนที่พาไปชิมคือ “ดร.พี่อ่าง-ธีระชัย พิพิธศุภผล” เอ็มดีบริษัทโอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ท่านเป็นผู้บริหารใจดี แบบว่า…แก่ สปอร์ต กทม.ด้วยหรือเปล่า อันนี้ชายย้วยก็ไม่ทราบเด้อคับ ชาวคณะเรายังมีพี่ปุ๋ย-พี่แหม่ม ที่เป็นทีมบริหารของคอนโดรวมอยู่ด้วย
เล่าประวัติให้ฟังนิสนุงละกัน โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ เขาเป็นคอนโดจอดเรือยอชต์ได้ ที่ดินแปลงเบ้อเริ่ม 120 ไร่ เจ้าของเขาสุขนิยม ค่อยๆ ลงทุนทีละกระจุ๊บกระจิ๊บ ทำคอนโดแท่งแรกโอนตั้งแต่ปี 2538 แท่งที่สองเหลือขาย 100 ห้อง กับมีท่าจอดเรือยอชต์ (เรือสำราญของคนมีกะตังค์) และมีบริการโรงแรมด้วย
เพราะฉะนั้น นับเฉพาะพนักงานและผู้บริหารก็มีจำนวนมากโข ประกอบกับทางเจ้าของเขาอยากมีสถานที่นั่งรับประทานซีฟู้ด ชิว ชิว ก็เลยทำร้านซีฟู้ดภายในโครงการ ไว้สำหรับตัวเองมากิน เอาไว้ขายให้กับพนักงาน (และลูกค้าทั่วไป ถ้ารู้จักว่ามีร้านนี้อยู่ในโลก)
ทำไปทำมา ขยับขยายกันยังไงก็ไม่รู้ ตอนนี้ร้านซีฟู้ดเดิมย้ายไป ปัจจุบันก็เลยมีมืออาชีพมาขอเช่าสถานที่ทำต่อ ถ้าจำไม่ผิดชื่อ “คุณน้องแม็ค” ผู้หญิงผมหยักศก ชูป้ายบอกเวลาเปิด-ปิดร้านนั่นแหละคับ และเปิดร้านในชื่อ Lake House
ความจริงชื่อร้านเขาก็ประดิษฐ์คำขึ้นมาอธิบายสถานที่ได้ชัดเจนเพราะในโครงการมีบ่อน้ำขนาดย่อมๆ ก็เลยเรียกว่าเป็นทะเลสาบหรือ Lake ส่วน House ก็คงต้องการสื่อว่าเป็นร้านอาหารดีไซน์เหมือนซีฟู้ดบ้านๆ หลังคามุงใบจาก เป็นร้านชั้นเดียว บรรยากาศเหมือนนั่งทานข้าวที่บ้าน
หลังจากดื่มกินอิ่มหมีพีมันไปแล้ว มี 2 เรื่องที่ชายย้วยติดใจ เรื่องแรกคือราคา โอ้โห๋ นั่งรับประทานอยู่ในโครงการคอนโดจอดเรือยอชต์ได้ แต่ราคาปกติมาก แทบจะไม่ได้บวกไม่ได้ชาร์จอะไรเล้ย ยกตัวอย่าง อาหารเริ่มต้นจานละ 60 บาทเห็นในเมนูผัดไทย ส่วนจานแพงสุดคือตระกูลปลากะพงทอดน้ำปลา ทอดกะเทียม 300 บาท (ถ้าซื้อครึ่งตัวขาย 180 บาท)
เรื่องที่ 2 ติดใจมากคือรสชาติ มารู้ตอนหลังว่าเปิดร้านอาหารไทยในประเทศอังกฤษ เมืองแมนเชสเตอร์ กับเมืองอะไรสักอย่าง และกำลังจะเปิดอีกแห่งที่เมืองอะไรก็จำไม่ได้ (น้องเขาเล่าจากหลังเคาน์เตอร์ คุยแบบไม่ค่อยตั้งใจเท่าไหร่) ทำมาเกือบ 20 ปีแล้ว ร้าน Lake House ก็เลยเป็นสาขาที่ย้อนศรกลับมาเปิดร้านในเมืองไทย
อ้อ เกือบลืม ขอแนะนำเจ้าของร้านอีกท่าน “คุณแม่น้องแม็ค” เป็นสตรีสูงวัยท่าทางผู้ดี ยืนชูสองนิ้ว เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยและความสำเร็จของ Lake House เด้อคับ
เมนูที่เขาสั่งมาขึ้นโต๊ะจานแรกที่เสริฟ แกงหมูชะมวง ราคา 150 บาท ตักซดไปคำแรกแอบมีรสชาติพริกสดด้วยอ่ะ รออะไรคับ ปรบมือรัวๆ สิคับ ไม่ต้องบรรยายว่าหมูตุ๋นเปื่อย ใบชะมวงเปรี้ยวๆฝาดๆ กลมกล่อม เนาะ
จานสอง กุ้งแช่วาซาบิ ราคา 100 บาท แม่คุณช่างคิดประดิดประดอย (อันนี้นึกในใจ) เครื่องเคียงทุกสิ่งอย่างเสิร์ฟเหมือนเราสั่งยำหอยนางรม ซึ่งเขาจะวางหอยนางรมสด น้ำจิ้มซีฟู้ด (ในที่นี้คือน้ำจิ้มวาซาบิ) หอมแดงเจียวกรอบ ใบชะอม แตกต่างแค่เปลี่ยนจากวัตถุดิบหอยนางรมเป็นกุ้งสดแทน
จานสาม กะหล่ำผัดน้ำปลา อันนี้ไม่รู้ราคาแล้วเพราะพยายามพลิกหาในเมนูไม่เห็น คุณน้องแม็คบอกว่า อ๋อ เป็นเมนูโปรดของที่ร้าน สั่งได้เลย เขาโรยกุ้งแห้งทอดกรอบบนผัก ทำให้จานนี้ดูหน้าตาดีมาก
จานสี่ แกงเนื้อข้าวเบือโบราณ บังเอิญว่าชายย้วยเป็นสายเนื้อ ร้องกรี๊ดจนหลังคามุงจากกระเพื่อมเล็กน้อย ราคา 150 บาท หลังจากชิมจานนี้แล้วไม่ปันใจให้กับข้าวจานอื่นเลย รสชาติถูกปากลูกอีสานหลายๆ เด้อคับ
จะว่าไปแล้วก็คือแกงป่าเนื้อนั่นแหละ แต่เป็นสูตรแซ่บควันออกหู ทางร้านเขาปรับสูตรด้วยการใส่ “ข้าวเบือ” ซึ่งก็คือข้าวสวยหรือข้าวสารนำมาตำให้ละเอียดแล้วใส่เป็นเครื่องปรุง จะได้รสเหนียวข้นๆ (ถ้านึกไม่ออกให้นึกไปถึงรสชาติแกงหน่อไม้ใบย่านาง เพราะเขาก็ใส่ข้าวเบือเหมือนกัน)
อย่างไรก็ตาม ตามประสาคนไม่รู้จักพอ เมนูนี้วัตถุดิบเนื้อถ้าเขาเอาไปจี่หรือเอาไปย่าง จะยิ่งหอมรัญจวนกว่านี้อีกเด้อคับ
จานห้า ปลาราดพริก ราคา 300 บาท เขาแยกเสิร์ฟโดยนำปลาหั่นเป็นชิ้นไปชุบแป้งทอด กับน้ำราดพริก ขอประทานโทษเด้อคับ นี่มันน้ำพริกลาบอีสานชัดๆ หน้าตาและรสชาติใช่เลย แถมมีแอบใส่ราชินีอีสาน ซึ่งก็คือน้ำปลาร้าด้วยนิดๆ ใครชอบกินปลาทอดก็ไม่ต้องตักราด ชายย้วยแอบชิมปลาเปล่าๆ แล้วรสกลมกล่อม ลองตักน้ำพริกลาบเติมก็จะแปลงกายเป็นลาบปลากะพงทอดทันที
พิจารณาจาก 2 เมนูนี้ ชายย้วยได้กลิ่นตุ ตุ ว่าคุณแม่น้องแม็ค รวมทั้งคุณน้องแม็คอาจสืบเชื้อสายจากตระกูลในภาคอีสานเด้อคับ (ฮา)
จานหก เมี่ยงปลาทูใบชะพลู ราคา 100 บาท หน้าตาเหมือนเมี่ยงคำเป๊ะ ให้เราตักวัตถุดิบที่ชอบ-ไม่ชอบ กิน-ไม่กินเอาเอง ตัวปลาทูนำไปโขลกกับพริก คงจะแอบปรุงอะไรมาบ้างแหละเพราะตักกินกับข้าวก็โอเค ไม่เคอะเขิน เข้ากันได้ดี หน้าตาเหมือนป่นปลาทู (สำรับอีสาน ป่นหมายถึงน้ำพริก เด้อคับ) ป่นปลาทูก็หมายถึงน้ำพริกปลาทูนั่นเอง
ความจริงมื้ออาหารสั่งกับข้าว6 อย่างถือว่าไม่น่าเกลียด แต่เผอิ๊ญ เผอิญ พี่ปุ๋ยซึ่งเป็นผู้จองโต๊ะให้ ทักขึ้นมาคำเดียวสั้นๆ ว่า อ้าว แล้วปลากะพงต้มระกำล่ะ ซิกเนเจอร์เมนูเลยนะ ฟังแค่นั้นเรานั่งกัน 5-6 คนพากันหูตั้งทุกคน ในที่สุดก็เลยได้เปิบเมนูแนะนำอีก 4-5 อย่าง มีดังนี้
จานเจ็ด ปลากะพงต้มระกำ ราคา 180 บาท อยากจะบอกว่าโด๊ฟชนะเลิศม๊าก มากเด้อคับ เขาปรุงเป็นต้มยำ มีผักชีฝรั่งลอยฟ่องเชียว ความเปรี้ยวใช้ระกำแทนมะนาวอาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลก แปล๊ก แปลก คิดได้ยังไงก็ไม่ทราบว่าให้ใส่กะปิด้วย หน้าตาก็เลยออกสีกะปินิดๆ เอาล่ะสิทีนี้ รสชาติจะเป็นยังไง ชายย้วยชิมแล้วคิดว่าชอบนะ แต่อธิบายไม่ถูก ไว้คุณแฟนเพจตามไปกินเองเด้อคับ
จานแปด (ตาย 5 เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าทำไมพวกเราตละกละกันอย่างนี้นะ-ฮา) คุณน้องแม็คคะยั้นคะยอให้ลองชิม บอกว่าอยู่เมืองสหราชอาณาจักร (ชื่อเป็นทางการของประเทศอังกฤษ) ขายดีมว้าก ก็คือผัดไทหมูสามชั้นโบราณ ราคา 60 บาท รสชาติตามนั้น
จานเก้า ปลาอินทรีทอดน้ำปลา หาราคาไม่เจอ หน้าตาวัตถุดิบดูสดมาก
จานสิบ กุ้งแม่น้ำคั่วพริกเกลือ ราคา 200 บาท ถ้าเดะ เดะ ไปด้วยคงกินทั้งเปลือก เพราะเด็กสมัยนี้ครูโรงเรียนอินเตอร์ (สอนสองภาษา) เขาสอนให้กินเปลือกกินหางกุ้งด้วย บอกว่าเสริมแคลเซี่ยม
จานสิบหนึ่ง ยำปูดอง ราคา 200 บาท เมนูนี้สายงก เอ้ย ไม่ใช่ สายประหยัดน่าจะชอบเพราะเสิร์ฟอลังก์มาก วัตถุดิบฟูเต็มจาน เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึงเนาะ เจ้าของร้านนี้เปิดโรงเรียนสอนทำอาหารยังได้เลย
ความจริงวันนั้น (วันที่ชิม) ชายย้วยติดใจแกงเนื้อ แต่ถ้าสั่งห่อกลับเขาคงไม่ให้จ่ายเอง เกรงใจเด้อคับ ก็เลยตั้งปณิธานว่านอกจากจะเป็นคนดี ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแล้ว วันหนึ่งข้างหน้าชายย้วยจะต้องกลับมาซื้อกลับกรุงเทพฯ ให้ได้ หรืออย่างน้อยไปทำธุระที่พัทยา แวะกินอาหารจานเดียว มีอยู่หลายเมนู ราดหน้าเนื้อสับ-หมูสับ ผัดขี้เมา สารพัดกะเพรา ข้าวผัดน้ำพริกกะปิปลาทู (เมนูเขามี 40-50 รายการ)
ตอนเช้าอยากแวะมานั่งกินอาหารเช้าสไตล์ฝรั่ง มี a la carte 4 เมนูราคา 120-50 บาท ได้แก่ All day breakfast (2 ไข่ 3 เบคอน ซอสลัมโบ อะไรทอดๆ นี่แหละ กาแฟหรือชา) BLT (เบคอน, มะเขือเทศ, วัตถุดิบที่เริ่มแปลไม่ออก ชายย้วยพูดภาษาอังกฤษเป็นตอน 7 ขวบ ทุกวันนี้ความรู้ภาษาอังกฤษยัง 7 ขวบเท่าเดิม เด้อคับ) Club sandwich กับ Ham&Cheese sandwich
จะว่าไปแล้ว ลิสต์รายการเครื่องดื่มกาแฟก็น่าสนใจ เพราะรสมือดูเหมือนจะมีกลิ่นอายฝรั่งเยอะอยู่ น่าจะชงอร่อยและน่าจะใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมอยู่
บรรทัดสุดท้าย ขอยืนยันคำเดิม ลิ้นใครลิ้นมัน ไปชิมแล้วรู้สึกเฉยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ชายย้วยชอบก็แล้วกัน ใครจะทำไม-ฮา
