ทีเส็บดันเชียงใหม่ เปิดเมือง MICE ชู 4 ธุรกิจไฮไลท์กระตุ้นเศรษฐกิจ

พระธาตุดอยสุเทพ
ภาพ Nirut Phengjaiwong from Pixabay

ทีเส็บ เตรียมจัดงาน Chiang Mai Alive รับเปิดเมือง พร้อมจัดประชุมแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุด เปิดโอกาส 4  สาขาธุรกิจเติบโต

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ดร.จุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ (สสปน.) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลที่สนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ (Meetings, Incentives, Conventions, Exhibitions/Events) ของประเทศ สู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

โดยมี MICE เป็นตัวขับเคลื่อนและกลไกหลัก เป้าหมายหนึ่งของทีเส็บคือ การยกระดับการพัฒนาเมืองผ่านไมซ์ และล่าสุดเชียงใหม่ได้รับการรับรองอีกครั้งให้เป็นเมืองไมซ์ชั้นนำของประเทศ

ทั้งนี้ แม้ว่า 2 ปีที่ผ่านมา โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเชียงใหม่อย่างหนัก ในตอนนี้เชียงใหม่กำลังเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นตัว ท่ามกลางความยากลำบาก แต่ยังมีทางออกสำหรับเมืองที่สวยงามและมีศักยภาพแห่งนี้ Chiang Mai is ALIVE เชียงใหม่ยังคึกคักและมีชีวิตชีวา

การจัดงาน Chiang Mai Alive มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเปิด ‘Charming Chiang Mai’ ให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแบบ Bleisure คือการผสมผสานระหว่างคำว่า Business Travel + Leisure ทีเส็บจึงจัดงานประชุมแบบ Hybrid ที่ใหญ่ที่สุดภายหลังการเปิดเมืองใหม่อีกครั้ง ในงาน Chiang Mai Alive Business Forum 2021 วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ

สำหรับวัตถุประสงค์ของงาน เพื่อสนับสนุนการเปิดเมืองเชียงใหม่ที่มีเสน่ห์อีกครั้งในฐานะจุดหมายปลายทางด้านธุรกิจและการพักผ่อน โดยใช้ MICE เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้เกิดการทำงานร่วมกันทางธุรกิจระหว่างธุรกิจในท้องถิ่น สมาคม และบริษัทระหว่างประเทศผ่านเครือข่ายของหอการค้าทวิภาคีในประเทศไทย

รวมถึงส่งเสริมให้หอการค้าทวิภาคีและบริษัทต่างประเทศไปสู่โอกาสทางธุรกิจในเชียงใหม่ ใน 4 สาขาที่มุ่งเน้น ได้แก่ เกษตรและอาหาร Gastronomy/Agrofood, สุขภาพ Health/Wellness, ธุรกิจสร้างสรรค์ Creative industries, ไมซ์และท่องเที่ยว Tourism/MICE ที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่นและการผนึกกำลังทางธุรกิจ ซึ่งเชียงใหม่ถือเป็นเมืองไมซ์ชั้นนำของประเทศไทย

MICE
ดร.จุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ (สสปน.) แลถงข่าวการจัดงาน การจัดงาน Chiang Mai Alive

ดร.จุฑา กล่าวต่อว่า จุดแข็งทั้ง 4 ด้านของเชียงใหม่ จะช่วยพลิกมุมใหม่ ให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางเชิงธุรกิจ สร้างเวทีเครือข่าย ต่อยอดสู่การแลกเปลี่ยนความรู้ สู่การค้าการลงทุน ภายในงานพบกับผู้ประกอบการกว่า 200 ราย นักธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับ SMEs และ Startups ในจังหวัดเชียงใหม่และทั่วประเทศไทยผ่านเครือข่ายหอการค้าระหว่างประเทศและสมาคมธุรกิจชั้นนำ เรียนรู้จากผู้นำในอุตสาหกรรมท้องถิ่น บริษัทไทยและต่างประเทศ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแนวโน้ม Gastronomy/Agrofood, Health/Wellness, Creative Industries, Tourism/MICE ในเชียงใหม่

สำหรับบริษัทที่ตั้งอยู่ในเชียงใหม่ ถือเป็นโอกาสที่จะได้เชื่อมต่อกับพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างประเทศที่มีศักยภาพจากทั่วประเทศไทย จากชุมชนธุรกิจระหว่างประเทศ (เนเธอร์แลนด์, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, เยอรมนี, สิงคโปร์, แคนาดา, เบลเยียม, ฝรั่งเศสและอื่น ๆ ) กับบริษัทที่อยู่ในกรุงเทพฯและภาคกลางของประเทศไทย สามารถเข้าร่วมงานได้บนเว็บไซต์และออนไลน์ผ่านการลงทะเบียนผ่าน bit.ly /3DkZVhR.

นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เชียงใหม่มีศักยภาพในการเป็นเมืองไมซ์ทุกด้าน มีเอกลักษณ์วัฒนธรรมมีวิถีชีวิต มีอาหาร มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ-วัฒนธรรม มีศูนย์ประชุมฯ มีการคมนาคมที่เข้าถึงสะดวก พร้อมที่จะรองรับความเป็นเมืองไมซ์ทุกด้านและไมซ์จะเป็นตัวเชื่อมและเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะเชื่อมเศรษฐกิจภายในจังหวัดให้เคลื่อนไปได้ โดยสามารถจัดกิจกรรมอีเว้นท์ได้ตลอดทั้งปี โดยให้ไมซ์เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) กล่าวว่า ตลาดประชุมสัมมนาถือเป็นตลาดที่มีการใช้จ่ายสูง ซึ่งในช่วงเกือบ 2 ปี เป็นช่วงการปรับตัวมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสร้างมาตรฐานด้านสุขอนามัยเป็นเรื่องสำคัญที่ภาคธุรกิจโรงแรมมีการตื่นตัว เพื่อเตรียมรองรับการท่องเที่ยวไมซ์ในรูปแบบใหม่ และเป็นการสร้างมาตรฐานเพื่อให้เชียงใหม่เป็น Destination ด้านไมซ์ในอนาคต