เกมรุกขยายตลาดEV…ค่ายญี่ปุ่นมาเหนือชั้น

ฮอนด้า
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : อมร พวงงาม

วันนี้ถ้าถามถึงรถ EV ในประเทศไทย หลายคนอาจจะมองว่า ค่ายญี่ปุ่นไม่มีทางเห็นฝุ่นค่ายรถยนต์จากจีนแน่นอน

ผ่านมา 2 ปีเต็ม ๆ กับมาตรการส่งเสริมรถEV ตัวเลขยอดจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกปาเข้าไปหลักแสนคัน ไปเช็กดูแบรนด์จากจีนทั้งนั้น

เหตุผลที่ “ญี่ปุ่น” ยังไม่เอาจริงเอาจังกับรถ EV นักวิเคราะห์หลายคน ระบุคล้าย ๆ กันว่า ญี่ปุ่นยังไม่กล้าทิ้งของเก่า ห่วงซัพพลายเชนรถยนต์สันดาป ที่มีห่วงโซ่ค่อนข้างยาวจะกระทบกระเทือน และที่สำคัญ รถสันดาปยังเป็นตลาดใหญ่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ

แต่ก็มีบางคนมองต่างโดยเฉพาะปรากฏการณ์ “สงครามราคารถ EV” ที่มีอยู่ตอนนี้ ทำให้ญี่ปุ่นไม่กล้ เพราะถ้าเลือกเข้าตลาดตอนนี้ คงต้องใช้วิธีเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ตามมาน่าจะเสียมากกว่าได้

ย้อนกลับไปดูสงครามราคารถ EV จีนที่เกิดขึ้น นักวิเคราะห์หลายสำนักฟันธงเป็นเพราะซัพพลายในจีนล้นทะลัก จีนมีกำลังการผลิตรถยนต์มากกว่า 40 ล้านคันต่อปี ขายในประเทศแค่ 25 ล้านคัน ส่งออกอีก 5 ล้านคัน ทำให้มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลือกว่า 10 ล้านคัน

Advertisment

แล้วส่วนเกินทำอย่างไร ก็ต้องส่งมาดัมพ์ราคาปลุกตลาดในประเทศที่กำลังเห่อรถ EV บ้านเราช่างพอดิบพอดีกำลังตื่นเต้นกับของเล่นใหม่ แถมมีแรงส่งจากรัฐบาลโดยเฉพาะเงินอุดหนุนอีกทางหนึ่ง ทำให้การแข่งขันรุนแรง ทุกค่ายถล่มกันแหลก ลดแล้วลดอีกเพราะได้ต้นทุนมาต่ำ

ลืมคิดไปเลยว่าจะกระทบแบรนด์ และที่สำคัญไม่สนความรู้สึกของลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้าด้วย จนมีนักวิชาการหลายรายให้คำจำกัดความว่าเป็น “วงจรอุบาทว์”

ทีนี้มาดูฟากญี่ปุ่น ทำอะไรกับ EV บ้าง

ถ้ามองเรื่องความสามารถทางเทคโนโลยี เชื่อว่า ไม่เป็นรองใครแน่นอน ทุกแบรนด์ญี่ปุ่นมีวิศวกรอยู่ในระดับเกรดเอแทบทั้งนั้น แต่ที่ต้องช้าเพราะยังไม่อยากเข้าร่วมวงจรอุบาทว์

Advertisment

เราจึงได้เห็นฮอนด้า ทำคลอด Honda e:N1 รถยนต์ไฟฟ้า 100% จากโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะปราจีนบุรี แต่ไม่วางขายตามโชว์รูม ใช้วิธีปล่อยเช่า มีบริษัทรถเช่ารองรับกว่า 10 ราย อัตราค่าเช่า ราว ๆ 2 หมื่นกว่าบาทต่อเดือนและยังมีอีกหลากหลายทางให้เลือก

“ผู้เช่าใช้” ไม่ต้องจ่ายค่ายอะไรเพิ่มอีกเลย ทั้งค่าประกันภัย ภาษีป้าย ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง เปลี่ยนยางใหม่ทุก 5 หมื่น กม.เปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกเล็ก 12 โวลต์ทุกปี แถมมีรถใช้ระหว่างซ่อมให้ด้วย

ราคานี้ถ้าเทียบกับการเป็นเจ้าของ โดยตีเม็ดเงินที่ผ่อนต่อเดือนน่าจะใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ฮอนด้าได้ คือสามารถรักษาภาพลักษณ์แบรนด์ ไม่ต้องลงไปแข่ง “ราคา” กับแบรนด์จีน

เช่นเดียวกับแบรนด์โตโยต้า แม้จะเคยสร้างกระแสเปิดรับจองในช่วงแรกกับแบรนด์ bZ รุ่น 4x แต่ใจลึก ๆ ของผู้บริหารคงอยากเน้นไปที่ปิกอัพ EV มากกว่า ตอนนี้เร่งพัฒนา Revo-e อย่างหนัก ประกาศชัดว่าน่าจะวางขายได้ปลายปีนี้

ช่วงเริ่มต้นยอมส่งไปร่วมกับโครงการพัฒนาเมืองต้นแบบที่ยั่งยืนปราศจากมลพิษที่เมืองพัทยา ทำเป็นรถ 2 แถววิ่งรับส่งคนในพื้นที่ ลอตแรกส่งมอบไปแล้ว 12 คัน เร็วนี้ก็คงมีเพิ่มอีก ตรงนี้ได้คนขับรถช่วยเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กระตุ้นแบรนด์ Hilux Revo-e ให้หลายคนได้รู้จัก ถึงเวลาขายจริง คงฉลุย

เห็นแนวรุก แบรนด์ญี่ปุ่นกับตลาดรถ EV ต้องบอก…เขามาเหนือจริง ๆ