อาลีบาบาประกาศเป้าหมาย สโคป 3+ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนคาร์บอนต่ำ

อาลีบาบาบุกเบิกแนวคิด Scope 3+ พันธกิจใหม่ลดการปล่อยคาร์บอน ดันแพลตฟอร์มดิจิตอลให้มีบทบาทสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนคาร์บอนต่ำ

วันที่ 21 ธันวาคม 2564 บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE: BABA และ HKEX: 9988) “อาลีบาบา” หรือ “อาลีบาบา กรุ๊ป” ประกาศคำปฏิญาณที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายใต้การดำเนินงานของบริษัทภายในปี 2573 และประกาศเป้าหมาย “สโคป 3+” ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.5 กิกะตันทั่วทั้งอีโคซิสเท็มของอาลีบาบาภายในปี 2578

แผนคาร์บอนสโคป 1-3

นายแดเนียล จาง ประธานและซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า อาลีบาบามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่สร้างสรรค์สังคม โดยกลยุทธ์ ESG (สิ่งแวดล้อม environment, สังคม social, และ ธรรมาภิบาล governance) ของบริษัทถูกกำหนดไว้เป็นภารกิจเพื่อการเป็นบริษัทที่ดี ที่จะดำเนินกิจการให้ได้ถึง 102 ปี และเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาในอนาคต

แดเนียล จาง

“เราจะใช้ประโยชน์จากความเป็นผู้นำในฐานะผู้ดำเนินการดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ค้า และพันธมิตร ทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก”

อาลีบาบากรุ๊ปมุ่งมั่นเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านสโคป 1 และ 2 ภายในปี 2573 โดยมีองค์ประกอบดังนี้

  1. เปลี่ยนยานพาหนะระยะใกล้ทั้งหมดไปเป็นยานพาหนะไฟฟ้า
  2. พัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ ด้วยยานยนต์อัตโนมัติ
  3. ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากร้านค้าปลีกออฟไลน์, อาลีบาบา คลาวด์ และสำนักงานทั่วโลก
  4. ดำเนินการตามแผนการจัดการซัพพลายเออร์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและระบบห่วงโซ่สีเขียว
  5. ซื้อคาร์บอนเครดิตคุรภาพสูง และลงทุนในเทคโนโลยีการจำกัดคาร์บอน

อาลีบาบาตั้งเป้าเพื่อลดความเข้มข้นของคาร์บอน 50% ในสโคป 3 (ภายในปี 2573) โดยใช้ระดับของปี 2563 เป็นพื้นฐาน นอกจากนี้อาลีบาบาคลาวด์จะรับผิดชอบเป้าหมายที่เหนือกว่าสโคป 3 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 ทั้ง 3 สโคป โดยมีองค์ประกอบของสโคป 3 มีดังนี้

  1. พัฒนาการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน และเพิ่มการใช้พลังงานสะอาด
  2. จัดลำดับความสำคัญของซัพลายเออร์ด้วยการขนส่งทางไฟฟ้า และการใช้แพ็กเก็จจิ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  3. ลดคาร์บอนฟุตพริ้นของการเดินทางเพื่อธุรกิจ และการเดินทางอื่น ๆ
  4. ดำเนินการตามแผนการจัดการซัพพลายเออร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและระบบห่วงโซ่สีเขียว

บริษัทจะเข้าร่วมโครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets หรือ SBTi) และได้ปรับใช้มาตรการและกลยุทธ์ในการขจัดคาร์บอนตามปฏิญญา Business Ambition for 1.5°C ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการหลีกเลี่ยงผลกระทบร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงปารีสปี 2558

จะนำแนวทางที่เป็นระบบและอิงตามวิทยาศาสตร์มาใช้ในการวางแผน และจัดการโครงการริเริ่มการลดคาร์บอน รวมถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อลดการปล่อยมลพิษ ตั้งใจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียนที่ก้าวหน้าทันสมัย และการสำรวจแนวคิดริเริ่มในการกำจัดคาร์บอน ซึ่งตามหลักการของบริษัทแล้ว บริษัทให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอนมากกว่าการกำจัดคาร์บอน และให้ความสำคัญกับการกำจัดคาร์บอนมากกว่าคาร์บอนออฟเซ็ต

บุกเบิกแนวคิด Scope 3+

นอกเหนือจากการดำเนินงานของบริษัทและห่วงโซ่คุณค่าทางตรง อาลีบาบามุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษที่เกิดจากการมีผู้ร่วมอีโคซิสเท็มมากยิ่งขึ้น จึงบุกเบิกแนวคิด “สโคป 3+” โดยให้คำมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในวงกว้างยิ่งขึ้นภายในปี 2578 โดยจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในซิสเท็มของอาลีบาบา 1.5 กิกะตันในระยะเวลา 15 ปี (ภายในปี 2578)

ดร.เฉิน หลง รองประธาน อาลีบาบา กรุ๊ป และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนความยั่งยืน อาลีบาบา กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าการใช้แพลตฟอร์มดิจิตอลมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและคาร์บอนต่ำ ซึ่งสามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย 1.5 องศาของข้อตกลงปารีส

แนวคิดสโคป 3+ เพื่อชักจูงและสนับสนุนให้ใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ และพฤติกรรมคาร์บอนต่ำในกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอีโคซิสเท็มของบริษัท อีกทั้งยังแบ่งปันเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานและเครื่องมือทางธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมใหม่ให้ลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ร่วมกัน

ตั้งหน่วยงานดูแล ESG

อาลีบาบา ยังประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบเขตการกำกับดูแล ESG สามระดับใหม่ เพื่อดูแล ผลิต และสนับสนุนความสำเร็จของเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป้าหมาย ESG ที่กว้างขึ้น ด้วยตั้งหน่วยงานที่กำกับดูแล ESG โดยเฉพาะประกอบด้วย คณะกรรมการเพื่อความยั่งยืนในระดับผู้บริหาร โดยเจอรี่ หยาง กรรมการอิสระ รวมไปถึงสมาชิกอื่น ๆ ของผู้บริหาร

คณะกรรมการขับเคลื่อนความยั่งยืน รับผิดชอบการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การกำหนดเป้าหมาย และการบริหารจัดการ

กลุ่มปฏิบัติการข้ามธุรกิจ ESG ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากแต่ละหน่วยธุรกิจในระดับการทำงานที่รับผิดชอบด้านการประสานงานและการดำเนินงาน

ในขณะเดียวกัน อาลีบาบามีความตั้งใจที่จะยังคงปรับปรุงข้อมูลและกลไกการเปิดเผยข้อมูลและรายงาน โดยบริษัทเผยแพร่รายงานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและรายงาน ESG ทุกปีตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

ซึ่งรวมไปถึงความคืบหน้าประจำปีที่มีความเป็นรูปธรรมด้วย รายงานทั้งหมดจะยึดตามตัวชี้วัดที่ได้มาตรฐานที่สุด ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับในประเทศและระดับสากล โดยได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบที่ได้รับการรับรอง