เอิร์น-เอิร์ธ ทายาท ยูดี ทาวน์ บริหารศูนย์การค้าแบบธรรมดาโลกไม่จำ

อภิชา-ภาสกร วีรชาติยานุกูล
พลพัต สาเลยยกานนท์ : เรื่อง

ตระกูล “วีรชาติยานุกูล” ผู้ก่อตั้งศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ (UD Town) ในจังหวัดอุดรธานี ถือเป็นศูนย์การค้าท้องถิ่นประจำจังหวัดที่วันนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ช็อปปิ้งและพักผ่อนสำหรับชาวอุดรฯ ย้อนกลับไปราว ๆ 10 ปีก่อน ยูดี ทาวน์ ก่อตั้งโดย “ธนกร วีรชาติยานุกูล”

ท่ามกลางความคิดของผู้คนในเวลานั้นว่า “เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” ถึงวันนี้ ยูดี ทาวน์ ถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของชาวอุดรฯ นับจากจุดเริ่มต้นของศูนย์การค้าภูธรแห่งนี้ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นโอเพ่นแอร์ให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและสัมผัสกับกิจกรรมที่โดดเด่นและแตกต่างอยู่เสมอ

ดีไลฟ์ “ประชาชาติธุรกิจ” พูดคุยกับ “เอิร์น-เอิร์ธ” 2 พี่น้องทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล “วีรชาติยานุกูล” ที่วันนี้ได้รับมอบหน้าที่การบริหารงานของบริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด บริหารศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ อย่างเต็มตัวด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงวัยไม่ถึงเลข 3 จากรุ่นพ่อที่สเต็ปแบ็กไปเป็นโค้ชและที่ปรึกษา

เอิร์น-อภิชา วีรชาติยานุกูล บุตรสาวคนโตของครอบครัว “วีรชาติยานุกูล” เล่าให้ฟังว่า ในครอบครัวมีพี่น้อง 2 คน คือ ตนและน้องชาย ซึ่งตนเองได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้การทำธุรกิจตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว แม้จะไม่ใช่การเข้ามารับผิดชอบในตำแหน่งการบริหารงานโดยตรง

แต่จุดเริ่มต้นของตัวเองในการเข้ามาเรียนรู้ในธุรกิจศูนย์การค้าแห่งนี้ คือ การทำอีเวนต์ ด้วยความชอบส่วนตัวในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ของโลก และได้มีโอกาสเห็นการจัดอีเวนต์ในต่างประเทศทำให้มองเห็นถึงการนำมาปรับใช้กับอีเวนต์ของยูดี ทาวน์

“ย้อนกลับไปในวันนั้นซึ่งเป็นครั้งแรกที่เอิร์นปรับสเกลงานสงกรานต์ของเราให้เปลี่ยนไปจากเดิมทั้งขนาดงานและกิจกรรมภายในงาน วันนั้นได้นำเอา ดีเจ.ต่างประเทศและจัดคอนเสิร์ตในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งต่อมาก็เป็นงานอีเวนต์ เคานต์ดาวน์ ก่อนที่จะขยับขยายมาสู่งานด้านการบริหารภาพลักษณ์องค์กรในปัจจุบัน”

วันแรกที่เข้ามายอมรับว่าอาจจะไม่ได้มาทางสายงานด้านบริหารเลย เพราะสำเร็จการศึกษาด้านแฟชั่นดีไซน์จากประเทศอังกฤษ London College of Fashion (Fashion visual merchandising and branding) แต่การเรียนรู้และประสบการณ์ที่คุณพ่อให้โอกาสลงมือทำจริงและคอยสอนทำให้วันนี้ในวัย 28 ปี

รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด บริหารศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ ดูแลเรื่องการขาย มาร์เก็ตติ้ง โปรโมชั่นและภาพรวมของศูนย์การค้า, เจ้าของร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน Brunch & Munch และเจ้าของร้านอาหารไทยอีสานฟิวชั่น Par Restaurant

เอิร์ธ-ภาสกร วีรชาติยานุกูล บุตรชายคนเล็ก กล่าวเสริมว่า หลังจากที่สำเร็จการศึกษาด้านการบริหาร ปริญญาตรีจาก Burnel University และปริญญาโท ด้านการบริหารด้านการโรงแรม ที่ Coventry University จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็เข้ามาเริ่มงานในการดูแลธุรกิจศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์

ซึ่งในช่วงแรกเริ่มเข้ามาฝึกงานและบริหารงานกับคุณพ่อในช่วงปิดเทอมของทุก ๆ เทอม หลังจากเรียนจบก็ได้เข้ามารับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ ได้ประมาณ 1 ปี คุณพ่อสร้างศูนย์ประชุมเสร็จ

จึงได้เข้ามาบริหารศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ได้ประมาณ 2 ปี ก็ได้รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการโรงแรมโมโค ที่เป็นธุรกิจใหม่อีกหนึ่งธุรกิจที่เข้ามาบริหาร ตั้งแต่เริ่มสร้าง การออกแบบ หาผู้รับเหมา คุมงานก่อสร้าง จนสร้างเสร็จ

“เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นคนก่อตั้งโรงแรมและบริหารอย่างเต็มตัว ถึงวันนี้ได้รับตำแหน่งด้านการบริหาร 3 ตำแหน่งด้วยกัน ได้แก่ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด บริหารศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ กรรมการผู้จัดการศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ และกรรมการผู้จัดการโรงแรมโมโค”

รับช่วงต่อการบริหารงานจากรุ่นพ่อ

วันนี้จะเรียกได้ว่าคุณพ่อแทบจะวางมือในการบริหารงานแล้วทั้งหมดก็ไม่ผิด ซึ่งเราทั้ง 2 คนเข้ามารับช่วงต่อในการบริหารงานทั้งหมดแทบจะ 100% แล้ว โดยคุณพ่อยังคอยเป็นที่ปรึกษาและโค้ชในการดูแลให้คำปรึกษาอยู่ตลอด และแนะนำวิธีแนวคิดการทำงานและการจัดการปัญหา

ความท้าทายในการบริหารงาน

2 พี่น้องเล่าให้ฟังว่า การทำงานร่วมกันในหน้าที่รับผิดชอบที่ต่างกันถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างกันโดยใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ได้ศึกษามาบวกกับประสบการณ์ในการเรียนรู้มาพัฒนาองค์กรให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งด้วยความเป็นองค์กรที่ทำงานร่วมกับคนจำนวนมาก

ทั้งผู้เช่าพื้นที่ ผู้เข้ามาใช้บริการ รวมถึงพนักงานและคู่ค้า ทำให้ต้องมีความละเอียดรอบคอบ ปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา พินิจพิจารณาการเปลี่ยนแปลงไปของโลก ของพฤติกรรมผู้บริโภค ของเทรนด์ ซึ่งอาจจะมีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้หลายอย่าง

ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายในวิธีการทำงานและจัดการกับปัญหาให้ออกมาดีที่สุดได้อย่างไร

ที่สำคัญในธุรกิจ 3 ด้านที่ครอบครัวเรามี ได้แก่ 1.ศูนย์การค้า 2.ศูนย์ประชุม และล่าสุดธุรกิจใหม่อย่างโรงแรม ซึ่งทุกธุรกิจล้วนเป็นการส่งมอบประสบการณ์ความสุขให้กับคน ดังนั้น ทั้งส่วนตัวของพวกเรารวมถึงทีมงานของเราต่างต้องมีความยืดหยุ่นและปรับตัวเร็วอย่างมาก

เช่น ศูนย์การค้าของเราเป็นโอเพ่นแอร์ ฝนตก-แดดออก เราจะทำอย่างไรจะดูแลผู้ค้า-ลูกค้าอย่างไร ศูนย์ประชุมและโรงแรม มีการจองการจัดงานจองห้องพักมาและมีการเปลี่ยนแปลงเราจะจัดการเรื่องปริมาณอาหารอย่างไร จัดการเรื่องสถานที่อย่างไร ปริมาณพนักงานอย่างไร

ศูนย์การค้าของคนท้องถิ่นเพื่อคนท้องถิ่น

ในฐานะที่เราเป็นครอบครัวที่มีรกรากอยู่ในจังหวัดอุดรธานีตั้งแต่กำเนิด ธุรกิจที่เราทำอยู่ก็ตั้งอยู่ในจังหวัด ทีมงานเป็นคนในจังหวัด และเราอยู่กับสิ่งที่เราบริหารงานทำงานทุกวัน ซึ่งความได้เปรียบของเราคือการเป็นองค์กรที่สามารถปรับตัวได้เร็ว จึงใช้ประโยชน์จากความเข้าใจในความต้องการในฐานะคนท้องถิ่นนำเสนอความแปลกใหม่และสิ่งที่แตกต่างอย่างเหมาะสมอยู่เสมอ

“เราคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชาวเมืองอุดรธานีสัมผัสถึงประสบการณ์ที่แตกต่าง ทำอย่างไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ อยู่เสมอ นั่นเป็นสิ่งที่เราโฟกัสหลักที่จะทำอย่างไรให้ ‘ว้าว’ ทุกครั้งที่คนได้เดินทางมาหาเรา”

ภาพของยูดี ทาวน์ ในเจเนอเรชั่นใหม่

อยากสานต่อและพัฒนาให้ธุรกิจของเราเป็นธุรกิจที่มั่นคงของอุดรธานีจากรุ่นพ่อ และอยากให้ใครก็ตามที่เดินทางมายังอุดรธานีต้องนึกถึงยูดี ทาวน์ เป็นแลนด์มาร์กในใจทุกคน และอยากให้สร้างความภาคภูมิใจให้กับทีมงานและชาวเมืองอุดร ในการเป็นศูนย์การค้าของคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ในอนาคตสิ่งที่จะได้เป็นจากยูดี ทาวน์ รูปแบบใหม่ คือ กิจกรรมและความน่าสนใจใหม่ที่ถูกอกถูกใจทุกคนอยู่เสมอ รวมถึงธุรกิจใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างน่าสนใจ เหมือนธุรกิจล่าสุดของเราที่เปิดตัวธุรกิจโรงแรมโมโค พรีเมี่ยมบูทีคโฮเทล

แน่นอนว่าการรับช่วงต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นถือเป็นความกดดันอย่างหนึ่ง แต่เรามีมุมมองการเปลี่ยนแปลงความกดดันนั้นเป็นแรงผลักดันไปข้างหน้าสู่เป้าหมายใหม่และความสำเร็จต่อยอดจากสิ่งที่รับมอบมาอย่างดีที่สุด

หลักคิดและความเชื่อ

ครอบครัวเราเชื่ออย่างหนึ่งว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เหมือนวันที่คุณพ่อเริ่มต้นสร้างธุรกิจขึ้นมา ทุกคนก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่คุณพ่อก็ทำให้มันเกิดขึ้นและสำเร็จ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าถ้าเราตั้งใจทำสิ่งเหล่านั้นก็จะเกิดขึ้นได้ แต่จะใช้เวลาสู่ความสำเร็จมากหรือน้อยนั้นเป็นองค์ประกอบระหว่างทาง

แม้วันนี้เราทั้ง 2 คนอาจจะไม่ได้เริ่มต้นสร้างธุรกิจขึ้นมาจากศูนย์เหมือนคุณพ่อ แต่โจทย์สำคัญคือเราจะต่อยอดอย่างไรให้ไปสู่ความมั่นคงโดยการทุ่มเทและโฟกัสอย่างเต็มที่

สุดท้าย คติที่ยึดถือมาโดยตลอดจากรุ่นสู่รุ่นคือ “คิดนำทำนำ สร้างความแตกต่าง” ซึ่งคำพูดติดปากคุณพ่อที่พูดกับพวกเราเสมอ คือ “ธรรมดาโลกไม่จำ” ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับธุรกิจของยูดี ทาวน์ และอื่น ๆ ในอนาคต