ปตท.สผ. ผนึก กรุงไทย หนุนสภาพคล่อง ลุยธุรกิจคาร์บอนเครดิต

ปตท.สผ. ผนึก กรุงไทย

ปตท.สผ. ผนึก กรุงไทย นำร่องโครงการลงทุนบริหารสภาพคล่อง เชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Linked Investment Program) ครั้งแรกของประเทศ ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านการเงิน พร้อมนำผลตอบแทนบางส่วนซื้อคาร์บอนเครดิตคุณภาพ ตอบโจทย์เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

วันที่ 24 พฤษภาคม 2556 นายสัมฤทธิ์ สำเนียง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า ปตท.สผ. ร่วมกับกรุงไทยดำเนินโครงการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องเชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit Linked Investment Program) ถือเป็นประวัติการณ์ใหม่ ครั้งแรกในไทย

“ที่ผ่านมา ปตท.สผ. มีเป้าหมายเพื่อปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 (Net Zero Greenhouse Gas Emissions by 2050) ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ในการประชุม COP26”

ทั้งนี้ บริษัทได้บริหารจัดการการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P Portfolio) ควบคู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต และกิจกรรมเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การปลูกป่า และโครงการบลูคาร์บอน เป็นต้น รวมถึงการบริหารจัดการทางการเงินและรักษาโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท อย่างการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องของ ปตท.สผ. ในครั้งนี้

นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสภาพคล่องแล้ว ยังสามารถนำผลตอบแทนการลงทุนบางส่วนไปซื้อคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพ รวมทั้งการลงทุนในโครงการที่สนับสนุนการบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคต ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการนำนวัตกรรมทางการเงินมาใช้ ส่งเสริมเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า โครงการนี้ได้นำนวัตกรรมด้านการเงินมาบริหารจัดการด้านการลงทุนให้กับลูกค้า เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งด้านการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน และตอบโจทย์นโยบายด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร โดยจะดำเนินการเป็นระยะเวลา 1 ปี

โดยธนาคารสนับสนุนการจัดหาคาร์บอนเครดิตให้กับ ปตท.สผ.เพิ่มเติม หาก ปตท.สผ.สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตามดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ที่ธนาคารกำหนด ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของประเทศในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2608

ทั้งนี้ ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านตลาดเงินตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทั้งกลุ่มนิติบุคคล และนักลงทุนในทุกมิติ ทั้งการปฏิวัติการออกหุ้นกู้เอกชนในรูปแบบหุ้นกู้ดิจิทัล พร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ทั้งตลาดแรก และตลาดรองได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม สะดวก และปลอดภัย อีกทั้งบริการด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินของนิติบุคคล ภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่กรุงไทย และ ปตท.สผ.ได้ร่วมสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ให้ตลาดเงินและตลาดทุนไทย หลังประสบความสำเร็จในการปฏิวัติการลงทุนของประเทศ ด้วยหุ้นกู้ดิจิทัลครั้งแรกในเอเชีย พร้อมทำสัญญาอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน อ้างอิงผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (ESG-Linked Cross Currency Swap) เป็นครั้งแรกในประเทศ” นายรวินทร์กล่าว

ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ESG Financial Solution ของธนาคาร เพื่อเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ที่ตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ (UN) โดยเฉพาะ SDGs ข้อ 13 เรื่องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นการขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของกรุงไทยที่ว่าเคียงข้างไทยสู่ความยั่งยืน