อดุลย์ โชตินิสากรณ์ โชว์วิสัยทัศน์ 4.0 กรมการค้าต่างประเทศ

สัมภาษณ์

หลังจากเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) คนใหม่ “อดุลย์ โชตินิสากรณ์” เปิดเผยถึงนโยบายการทำงาน และการสะสางการระบายสต๊อกข้าวสาร 2 ล้านตัน การขยายการค้าชายแดน ตลอดจนวิสัยทัศน์ในปรับองค์กร

กรมการค้าต่างประเทศ 4.0

ตามนโยบายรัฐบาลต้องการให้หน่วยงานราชการปฏิรูปการทำงานให้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้บริการตามแนวคิด “นวัตกรรมดิจิทัล” “ระบบอัจฉริยะ” เพื่อให้ภาคเอกชนได้รับความสะดวกสบาย และเพิ่มความรวดเร็ว ลดการใช้กระดาษ โดยอยู่ระหว่างจัดทำ e-Book คู่มือการค้าต่างประเทศไว้ให้บริการ พร้อมกันนี้ กรมอยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมายหลายฉบับ เพื่อปลดล็อกอุปสรรคทางการค้า เยียวยาการใช้มาตรการทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการยกร่างกฎหมายใหม่ พ.ร.บ.การค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง หรือร่าง พ.ร.บ. TCWMD ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะผ่านเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.มาตรการการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน พ.ศ. …. ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเช่นกัน

โละสต๊อกข้าวเก่า

ในวันที่ 29 มีนาคม 2561 จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาแผนการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออีก 2.04 ล้านตัน เป็นข้าวกลุ่ม 2 ที่ใช้ในอุตสาหกรรมไม่ใช่คนบริโภค 1.5 ล้านตัน และกลุ่ม 3 ที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่คน/สัตว์บริโภค 5 แสนตัน และกลุ่ม 1 ข้าวที่คนบริโภคได้ 40,000 ตัน หาก นบข.เห็นชอบจะนำออกมาประมูลช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม หากยังเหลือจะเปิดประมูลอีกครั้งช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2561

การประมูลข้าวช่วงนี้เหมาะสม ข้าวใหม่ยังไม่ออก ไม่มีผลกระทบต่อตลาด ข้าวส่วนใหญ่ที่นำมาประมูลเป็นข้าวสู่อุตสาหกรรม ไม่เป็นแรงกดดันต่อราคาข้าวในตลาด สำหรับการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลจนถึงขณะนี้มีปริมาณ 14.84 ล้านตัน มูลค่า 135,000 ล้านบาท

แผนผลักดันส่งออก

นับตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 ถึงปัจจุบัน (มีนาคม) ไทยส่งออกข้าวไปแล้ว 2 ล้านตัน ขยายตัว 4.17% มูลค่า 999 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 22.13% ทิศทางการส่งออกข้าวยังไปได้ดี ตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมากรมได้เจรจาตกลงราคาและส่งมอบข้าวลอตที่ 5 ปริมาณ 100,000 ตัน เพื่อส่งมอบในเร็ว ๆ นี้ ที่เป็นสัญญาจีทูจีเดิมที่ทำไว้กับจีน ทั้งยังเปิดประมูลสั่งซื้อข้าวจากรัฐบาลต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์จะเปิดประมูล 2.5 แสนตันในเดือนนี้ เป็นช่องทางการส่งออกข้าวไทย ประกอบกับผลผลิตข้าวโลกลดลงจากปัญหาภัยแล้งในหลายประเทศ จึงเชื่อว่าการส่งออกจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 9.5 ล้านตัน และจะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกมีเสถียรภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กรมได้รับนโยบายจากรัฐมนตรี ให้เดินหน้าทำตลาดข้าวเต็มที่ โดยเตรียมนำคณะเอกชนเจรจาขายข้าวกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ส่วนตลาดสเปน จีน สหรัฐ เม็กซิโก คณะผู้บริหารระดับสูงนำคณะออกทำตลาดข้าว นอกจากนี้มีตลาดอื่น เช่น มีคณะผู้นำเข้า เช่น ฮ่องกง อิรัก อิหร่าน ที่จะมาเจรจาซื้อข้าวจากไทย กรมจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจในด้านคุณภาพข้าวไทย และช่วยให้การทำตลาดข้าวมีประสิทธิภาพข้าวดีขึ้น

ผลักดันการค้าชายแดน

เป้าหมายการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ปี 2561 คาดว่าจะเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมาที่มี 1.3 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปี 2559 ถึง 8.85% จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมค้าชายแดนและการลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน ในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ มูลค่าการค้าชายแดนในเดือนมกราคม 2561 มีมูลค่า 1.15 แสนล้านบาท โต 29.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยกรมจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญการค้าชายแดนในเมืองรอง กลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยผ่านการจัดมหกรรมการค้าชายแดน 4 ภูมิภาค เริ่มจากจังหวัดสระแก้วแห่งแรกในเดือนนี้ แล้วขยายไปจัดที่จังหวัดนครพนม เชียงราย และสงขลาต่อไป

พร้อมกันนี้ กรมจะเดินหน้าโครงการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ YEN-D โดยจะเปิด 4 รุ่น เริ่มต้นจากไทย-กัมพูชา ในเดือนมีนาคมนี้ ต่อเนื่องไปยังไทย-ลาว ในช่วงเมษายน ไทย-เมียนมา ช่วงเดือนพฤษภาคม และไทย-เวียดนาม เดือนมิถุนายน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโครงการนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถสร้างเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยในตอนนี้