ปตท.ปรับแผนใช้คลังเขาบ่อยา เน้นนำเข้าเพื่อส่งออกแทน หลังเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG พ่นพิษ รายอื่นแห่นำเข้าก๊าซเอง รับคลังเขาบ่อยาที่ลงทุนขยาย 4.8 หมื่นล้าน การใช้ในช่วง 2-3 ปีแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ จะมีวาระเพื่อพิจารณาคือ การเปิดคลังเขาบ่อยา จังหวัดชลบุรี ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้เอกชนรายอื่นสามารถเข้าใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ตามนโยบายการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซเต็มรูปแบบในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่ง ปตท.ได้นำเสนอเงื่อนไข หลักเกณฑ์ รวมถึงอัตราค่าใช้บริการต่อกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อพิจารณาเบื้องต้นแล้ว โดยประเด็นสำคัญที่จะนำเสนอ กพช.คือ ให้มีการ “ยกเลิก” รายละเอียดที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้เมื่อปี 2554 ทั้งหมด ในโครงการเพิ่มขีดความสามารถของคลังเขาบ่อยา หรือโครงการ LIFE (LPG Integrated Facility Enhancement Project) โดยเฉพาะการกำหนดผลตอบแทนการลงทุน เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างยุติธรรม
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- กรุงไทย ปิดระบบ-แอป Next 11-12 และ 14 พ.ค. นี้ เช็กรายละเอียด
- เปิดทรัพย์สิน-งบการเงิน “มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล” ย้อนหลัง 5 ปี
นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายหลังจากการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซLPG ทำให้มีผู้ค้าบางรายนำเข้าก๊าซ LPG เอง ส่งผลให้ ปตท.ต้องปรับแผนธุรกิจก๊าซ LPG จากเดิมที่นำเข้าเพื่อรองรับการใช้ในประเทศ มาเป็นการนำเข้าเพื่อส่งออก (Reexport) ไปเพื่อนบ้านแทน เมื่อประเมินการใช้ประโยชน์คลังเขาบ่อยาที่ ปตท.ได้ลงทุนขยายเพิ่มเติมเป็น 250,000 ตัน/เดือน(ลงทุนประมาณ 48,000 ล้านบาท) คาดว่าในช่วง 2-3 ปีแรก (2561-2563) การใช้ประโยชน์จากคลังเขาบ่อยาจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่เชื่อมั่นว่าตั้งแต่ปี 2564 จะสามารถใช้ศักยภาพคลังเขาบ่อยาได้เต็มที่ จากความต้องการใช้เพิ่มขึ้น และปริมาณก๊าซจากอ่าวไทยลดลงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สำหรับเงื่อนไขการเข้าใช้ประโยชน์จากคลังเขาบ่อยานั้น ได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) แล้ว ซึ่งข้อกำหนดทั้งหมดในเชิงเทคนิคจะเป็นไปตามมาตรฐานสากล ในส่วนของอัตราค่าใช้บริการนั้นจะเป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง ปตท.และผู้เข้าใช้คลังเขาบ่อยาภายใต้ราคาที่เหมาะสมตามปริมาณก๊าซที่ผ่านระบบ และต้องสอดคล้องต้นทุนทางการเงินของ ปตท. อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ปตท.ไม่ได้นำเข้าก๊าซ LPG เนื่องจากความต้องการใช้ที่ลดลง และมีผู้ค้ารายอื่นนำเข้าเอง โดยปัจจุบันกำลังผลิตในประเทศไม่พอรองรับการใช้ ประมาณ 30,000 ตัน/เดือน ในขณะเดียวกันมีผู้ค้ารายอื่น (บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน)) นำเข้าที่ 44,000 ตัน/เดือน ซึ่งหาก ปตท.นำเข้าก๊าซ LPG อีก จะทำให้ปริมาณก๊าซล้นระบบได้