
“ธรรมนัส” รมว.เกษตรฯ เร่งเดินหน้านโยบายรัฐบาล นรม.เศรษฐา “โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ 62 จังหวัด 62 ล้านตัว” เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ ดูแลเกษตรกรฐานรากให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ปั๊ม GDP ภาคประมง 1.3 แสนล้าน
วันที่ 21 กันยายน 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดงานครบรอบวันสถาปนากรมประมง ปีที่ 97 ที่จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “97 ปี กรมประมง สร้าง เสริม เพิ่ม ยก พัฒนา ประมงไทย ก้าวสู่ศตวรรษใหม่อย่างยั่งยืน” และ “วันประมงแห่งชาติ” ประจำปี 2566 ว่า
- วิกฤตหรือไม่วิกฤต คำตอบผู้ว่าการ ธปท.
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งเดินหน้านโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นพัฒนาและบริหารการเปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่ภาคการประมงของประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน
โดยประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GDP ภาคการประมง สูงถึง 130,313 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากปี 2564 และยังมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ควรมีการพัฒนาการผลิตสัตว์น้ำและสินค้าประมงที่ได้มาตรฐาน
ตลอดจนป้องปรามการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดและยั่งยืน สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพประมง ให้เป็นอาชีพที่มีความมั่นคง
พร้อมกันนี้ได้ดำเนินโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ 62 จังหวัด 62 ล้านตัว เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำให้เป็นแหล่งอาหารโปรตีนของประชาชนและชาวประมง และเพื่อดูแลเกษตรกรฐานรากให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนมีความอยู่ดีมีสุข ซึ่งพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อยในลุ่มน้ำสำคัญ จะเป็นสัตว์น้ำต้นทุนที่ช่วยฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ สร้างสมดุลระบบนิเวศ และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับสิ่งแวดล้อม
“วันนี้เป็นวันประมงแห่งชาติ ครบรอบปีที่ 40 จึงมีการจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ 4 แห่ง ใน 4 ภาค แห่งละ 300,000 ตัว จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,200,000 ตัว ได้แก่
1) บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ 2) กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา 3) หนองหาร จังหวัดสกลนคร และ 4) เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ทั้งหมด 8 ชนิด ประกอบด้วย ปลาตะพัด ปลาตะเพียนทอง ปลาตะเพียนขาว ปลาบ้า ปลากระแห ปลาเทพา ปลาสร้อยขาว และปลาหมอตาล”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และชาวประมง ที่ได้รับคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นในแต่ละสาขา
ทั้งประเภทบุคคลทางการเกษตรดีเด่น ประเภทสถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรดีเด่นด้านการประมงที่ได้รับโล่รางวัลในวันนี้ภาคการประมงนับได้ว่ามีบทบาทสำคัญยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย
โดยผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการทำการประมง ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากมาย ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ตลอดจนสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่ประชากรของประเทศไทยและประชากรโลก
สำหรับวันครบรอบวันสถาปนากรมประมง ปีที่ 97 ในปีนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู บริหารจัดการทรัพยากรประมง ส่งเสริมการผลิตและการตลาดอย่างเป็นรูปธรรมในทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการสร้าง เสริม เพิ่ม ยก พัฒนา ประมงไทยอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้พี่น้องชาวประมง เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ประกอบการด้านการประมง สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน