เปิดวาระร้อน พาณิชย์ ชง ครม.สัญจร ผนึกเขตเศรษฐกิจพิเศษ 2 จังหวัด

ภูมิธรรม เวชยชัย
ภูมิธรรม เวชยชัย

เปิดวาระร้อน พาณิชย์ชง ครม.สัญจร หนองบัวลำภู ไฟเขียวผนึกเขตเศรษฐกิจพิเศษ หนองคายและอุดรธานีร่วมกัน ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากัน

วันที่ 3 ธันวาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยถึงภารกิจในการประชุม ครม.สัญจร ครั้งแรกที่ จ.หนองบัวลำภูว่า จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมในเช้าวันที่ 4 ธ.ค. 2566 ว่าประเด็นสำคัญที่จะมีการนำเสนอเข้าสู่การประชุม ครม.ครั้งนี้ เป็นผลมาจากการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ 5 จังหวัด หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และเลย

โดยประกอบด้วย 4 เรื่อง ดังนี้

1.การขอขยายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคายให้ครอบคลุมถึงเขตนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เพื่อให้ผู้ประกอบการในนิคมฯอุดรธานี ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับผู้ประกอบการในเขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย

2.การส่งเสริม Logistics Park ในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ให้เป็น One Stop Service (OSS)

3.การจัดตั้งเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ภายในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี (E-commerce)

Advertisment

4.การประกาศเขตพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ให้เป็นเขตศุลกากร

“การผนวกหนองคายและอุดรธานีอยู่ร่วมกันในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นการผนึกกำลังสร้างความเข้มแข็งในการเป็นประตูมังกร ที่มีศักยภาพในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศที่ดูแลเรื่องนี้จะช่วยผลักดันอย่างเต็มที่“

นอกจากนั้น จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในการหาช่องทางจ่ายเงินคืนค่าตัดอ้อยสดที่ชาวไร่อ้อยได้ช่วยลดมลพิษ PM2.5 ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วติดค้างจ่ายให้ชาวไร่อ้อย โดยกระทรวงพาณิชย์เเละกระทรวงอุตสาหกรรมจะช่วยกันดำเนินการให้แล้วเสร็จทันทีที่มีการจัดสรรงบประมาณใหม่เป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในช่วงวันที่ 3-4 ธันวาคม 2566 ได้มอบหมายให้นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สำรวจปัญหาผลกระทบจากอุทกภัยที่ผ่านมา ที่ ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งทำให้เกิดถนนขาด ประชาชนเดือดร้อนสัญจรไม่สะดวก และสำรวจปัญหาข้อร้องเรียนเรื่องการจัดสรรเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินให้ประชาชนพื้นที่ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

Advertisment

รวมทั้งเข้าร่วมประชุมแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ร่วมกับสภาพัฒน์และผู้แทนจากภาคเอกชน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัด และเตรียมความพร้อมในการนำเสนอโครงการให้ ครม.พิจารณา

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่และจัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อช่วยขยายการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ในการเจาะตลาดการค้าชายแดนและผ่านแดน ผลจากกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้เกิดการเจรจาธุรกิจการค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการไทยที่พร้อมเจรจาการค้ากับต่างประเทศจำนวน 53 ราย (จากจำนวนผู้เข้าร่วม 320 ราย)