ราคาน้ำมันดิบ (3 ม.ค. 67) ปรับลด ตลาดลดความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดทะเลแดง

ราคาน้ำมันดิบ
Photo by Johannes EISELE/AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังตลาดลดความกังวลจากสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลแดง

วันที่ 3 มกราคม 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลด หลังตลาดคาดอุปทานน้ำมันดิบจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์บริเวณทะเลแดง ซึ่งมีความตึงเครียดมากขึ้น ภายหลังอิหร่านส่งเรือพิฆาตอัลบอร์ซเข้ามาในพื้นที่ขัดแย้งดังกล่าว เพื่อตอบโต้ที่กองทัพเรือสหรัฐโจมตีเรือของกลุ่มกบฏฮูตี

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 2 ม.ค. 2567 อยู่ที่ 70.38 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.27 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 75.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.15 เหรียญสหรัฐ

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของสหรัฐ เดือน ธ.ค. 66 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 47.9 ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 66 ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนเดือน ธ.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 49.0 ตัวเลขซึ่งต่ำกว่า 50 แสดงถึงกิจกรรมในภาคอุตสาหกกรรมที่ซบเซาลง และคาดว่าจะส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและปริมาณการใช้น้ำมันของโลก

Reuters poll คาดราคาน้ำมันดิบเบรนต์ในปี 2567 จะอยู่ที่ระดับ 82.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สูงกว่าปีก่อนหน้าที่ระดับ 82.17 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์จะเป็นปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงในเขตเศรษฐกิจหลักของโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันให้มีการเจริญเติบโตในอัตราที่ลดลง

Advertisment

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการประกาศโควตาการส่งออกรอบใหม่ของจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการนำเข้าของอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค. 66

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจากอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขการส่งออกรอบใหม่ของจีนในปี 2567