ราคาน้ำมันดิบ (12 ม.ค.) ปรับเพิ่ม หลังความขัดแย้งตะวันออกกลางมีแนวโน้มรุนแรง

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 1% หลังความขัดแย้งในตะวันออกกลางมีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้น

วันที่ 12 มกราคม 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 1% หลังอิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันที่มีน้ำมันดิบของอิรักบริเวณนอกชายฝั่งโอมาน เพื่อตอบโต้เหตุการณ์การยึดเรือลำเดียวกันในปีที่แล้วของสหรัฐที่ยึดเรือบรรทุกน้ำมันดิบของอิหร่าน ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สหรัฐและอังกฤษยังส่งสัญญาณว่าอาจดำเนินการจัดการกับกลุ่มฮูตีในเยเมนหากยังไม่หยุดการโจมตีในทะเลแดง

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 11 ม.ค. 2567 อยู่ที่ 72.02 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.65 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 77.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.61 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐปรับลดลง 1,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 202,000 ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากตลาดแรงงานที่ยังฟื้นตัวได้ดีทำให้อัตราการจ้างงานปรับตัวสูงขึ้น

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในเดือน ธ.ค. 66 อยู่ที่ 3.4% เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 66 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.2% ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม

Advertisment

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินในอียิปต์มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันเบนซินสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 8.03 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 244.98 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินโดนีเซียมีแนวโน้มนำเข้าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ภายหลังโรงกลั่นในประเทศที่มีกำลังการกลั่น 260,000 บาร์เรลต่อวัน มีแผนปิดซ่อมบำรุงในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 67 อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากสต๊อกน้ำมันทำความร้อนและน้ำมันดีเซลของสหรัฐที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา