กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยปี 2566 ต่างชาติลงทุนในไทย 127,532 ล้านบาท ญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 32,148 ล้านบาท ตามด้วยสิงคโปร์ 25,405 ล้านบาท และฮ่องกง 17,325 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 6,845 คน
วันที่ 24 มกราคม 2567 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในปี 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 รวมทั้งสิ้น 667 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 228 ราย
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- เริ่มจ่ายพรุ่งนี้ 1 พ.ค. ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ-เงินบำนาญขั้นต่ำ 11,000 บาท
และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 439 ราย
ทั้งนี้ เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 127,532 ล้านบาท จ้างงานคนไทยรวม 6,845 คน โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่
ญี่ปุ่นลงทุน
การเข้ามาลงทุนของญี่ปุ่นจำนวน 137 ราย คิดเป็น 20.5% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในปี 2566 มีเงินลงทุน 32,148 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจบริการที่เป็นคู่สัญญากับภาคเอกชน (บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย/บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้ง ทดสอบระบบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาท่อส่งก๊าซสำหรับโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซ)
- ธุรกิจบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลการใช้ก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมต่าง ๆ ของธุรกิจ เป็นต้น
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า (ชิ้นส่วนยานพาหนะ/ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์)
- ธุรกิจจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อการค้าส่งในประเทศ
สิงคโปร์ลงทุน
สิงคโปร์เข้ามาลงทุนจำนวน 102 ราย คิดเป็น 15.3% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในปี 2566 มีเงินลงทุน 25,405 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย
- ธุรกิจโรงแรม
- ธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์
- ธุรกิจบริการพัฒนาแพลตฟอร์ม
สหรัฐเข้ามาลงทุน
สหรัฐอเมริกา จำนวน 101 ราย คิดเป็น 15.1% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในปี 2566 มีเงินลงทุน 4,291 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า (ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม/ยารักษาโรค/อุปกรณ์กีฬา)
- ธุรกิจบริการออกแบบและพัฒนา ติดตั้ง วางระบบเกี่ยวกับโปรแกรมซอฟต์แวร์ (Software) และแอปพลิเคชั่น (Application)
- ธุรกิจบริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการงานด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการวางแผนทางธุรกิจ ด้านการประสานงานทางธุรกิจ ด้านการจัดการองค์กร เป็นต้น
จีนเข้ามาลงทุน
จีนจำนวน 59 ราย คิดเป็นร้อยละ 8.9 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในปี 2566 มีเงินลงทุน 16,059 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจบริการก่อสร้าง รวมทั้งติดตั้งและทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติ
- ธุรกิจบริการบำรุงรักษาหลุมขุดเจาะปิโตรเลียมบนชายฝั่ง
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า (เครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม/ชิ้นส่วนโลหะ และชิ้นส่วนพลาสติก/ชุดแบตเตอรี่สำหรับยานพาหนะไฟฟ้า)
- ธุรกิจกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) โดยเป็นการให้บริการแพลตฟอร์มกลางสำหรับซื้อ-ขายสินค้า
ฮ่องกงเข้ามาลงทุน
ฮ่องกงจำนวน 34 ราย คิดเป็น 5.1% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทยในปี 2566 มีเงินลงทุน 17,325 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจบริการบำรุงรักษา และซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้า
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า (ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์/ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ/ เม็ดพลาสติกรีไซเคิล)
- ธุรกิจบริการสินเชื่อแก่ผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย
- ธุรกิจบริการจองบัตรโดยสารสายการบินผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
นางอรมนกล่าวต่อว่า การเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการขุดเจาะและการบำรุงรักษาหลุมปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก องค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการบำรุงรักษาและดูแลชิ้นส่วน เครื่องมือ อุปกรณ์
สำหรับงานซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ และองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรมแอปพลิเคชั่นเพื่อความปลอดภัยและการจัดการข้อมูลส่วนตัว เป็นต้น
เทียบปี 2565
เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 พบว่าการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 84 ราย (14%) (ปี 2566 อนุญาต 667 ราย/ปี 2565 อนุญาต 583 ราย)
แม้มูลค่าการลงทุนจะลดลง 1,242 ล้านบาท (1%) (ปี 2566 ลงทุน 127,532 ล้านบาท/ปี 2565 ลงทุน 128,774 ล้านบาท)
แต่มีการจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 1,592 ราย คิดเป็นร้อยละ 30 (ปี 2566 จ้างงาน 6,845 คน/ปี 2565 จ้างงาน 5,253 คน)