ราคาน้ำมันดิบ (12 มี.ค. 67) เบรนต์ปรับขึ้น ตลาดยังกังวลตะวันออกกลาง-เงินเฟ้อสหรัฐ

น้ำมันดิบ
Photo by Paul Ratje / AFP

ราคาน้ำมันดิบวันนี้ เบรนต์ปรับเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังคงน่ากังวล ท่ามกลางตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่อาจยังคงสูงอยู่

วันที่ 12 มีนาคม 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา มีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงน่ากังวล ภายหลังการเจรจาหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสไม่เป็นผลสำเร็จ หลังอิสราเอลยังคงยืนยันที่จะไม่เข้าร่วมในการเจรจา ท่ามกลางเทศกาลรอมฎอนซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 67

เศรษฐกิจของจีนส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ภายหลังสำนักสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.พ. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 0.7% สูงกว่าเดือนก่อนหน้า ที่หดตัวลง 0.8% และถือเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

ตลาดจับตาการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.พ. 67 ของสหรัฐ ซึ่งจะประกาศในวันที่ 12 มี.ค. 67 นี้ โดยตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.1% ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ยังคงจำเป็นต้องดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดผ่านการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25-5.50% ต่อไป

ซึ่งจะสอดคล้องกับสัญญาณของประธาน FED ที่บ่งชี้ว่าการเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มต้นขึ้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อมีสัญญาณที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากยูเออีมายังภูมิภาคเอเชียสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 6 มี.ค. 67 ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 60,556 ตัน จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 28,530 ตัน ภายหลังโรงกลั่นกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากการกลับมาเปิดดำเนินการของโรงกลั่นในปากีสถาน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการประมูลขายน้ำมันดีเซลของประเทศอินเดียสำหรับส่งมอบเดือน มี.ค. 67 อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับการสนับสนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังยุโรป ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 7 มี.ค. 67 ที่ปรับลดลง 1.26% มาอยู่ที่ระดับ 2.03 ล้านตัน