WHAUP โชว์ตัวเลข Q1/2567 กำไรปกติพุ่ง 62% เล็งเปิดสถานีชาร์จ EV 120 ตู้ปีนี้

WHAUP

WHAUP โชว์ฟอร์ม งบไตรมาส 1/2567 ธุรกิจน้ำ-ไฟฟ้า ดันรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติแตะ 1,047 ล้านบาท และกำไรปกติ 372 ล้านบาท โต 62% YoY ด้าน CEO “สมเกียรติ เมสันธสุวรรณ”เดินเกมรุกต่อยอดธุรกิจพลังงานผ่านการพัฒนานวัตกรรม และโซลูชั่นด้านพลังงานใหม่ สอดรับกับแผนการลงทุน Green Logistics ของ WHA Group เล็งตั้งเป้าเปิดสถานีชาร์จ EV ครบ 120 ตู้ชาร์จภายในปีนี้

วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (WHAUP) เปิดเผยว่า

บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2567 โดยบริษัทฯ รับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ จำนวน 1,047 ล้านบาท และมีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) จำนวน 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% และ 62% ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในขณะที่มีกำไรสุทธิซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรปกติ

Advertisment

โดยมีสาเหตุหลักจากส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทั้งจากในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ที่รับรู้ค่าความพร้อมจ่ายเพิ่มขึ้นจากการหยุดซ่อมบำรุงที่ลดลง และจากในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ที่ได้รับปัจจัยบวกจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อัตรากำไรในส่วนของไฟฟ้าที่จำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายน้ำทั้งในประเทศไทยและเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ภาพรวมธุรกิจสาธารณูปโภค(น้ำ) ในไตรมาส 1/2567 มีปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมกันเท่ากับ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณจำหน่ายและบริหารน้ำในประเทศเพิ่มขึ้น 14% ซึ่งมีการเติบโตขึ้นทุกผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะน้ำดิบ (Raw Water) จากปริมาณความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้ากลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรเคมี และผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added Product) จากปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายใหม่ที่ได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว

ในส่วนของธุรกิจน้ำในต่างประเทศ ในช่วงไตรมาส 1/2567 ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มียอดจำหน่ายน้ำรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณยอดขายน้ำของโครงการ Duong River ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น

Advertisment

นอกจากนี้โครงการ Duong River ยังมีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในงวดไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Duong River จำนวน 18 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนอยู่ที่ -11 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตในธุรกิจน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาการให้บริการน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ปริมาณการผลิต 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) โดยคาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/2567

ด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงลดลง ส่งผลให้ได้รับค่าความพร้อมจ่ายเพิ่มขึ้น และจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPPs ที่เพิ่มขึ้นจากการที่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้กำไรจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นั้น ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ประเภท Private PPA เพิ่มจำนวน 15 สัญญา กำลังการผลิตรวมประมาณ 59 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีการลงนามในสัญญาโครงการ Private PPA สะสมทั้งสิ้น 242 เมกะวัตต์

ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 125 เมกะวัตต์ สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกจำนวน 5 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 125.4 เมกะวัตต์นั้น ปัจจุบันได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ EGAT และ PEA เสร็จสิ้นแล้ว 4 โครงการ จำนวนรวม 85 เมกะวัตต์ สำหรับอีก 1 โครงการที่เหลือคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้เร็วๆ นี้ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ราว 812 เมกะวัตต์ โดยบริษัทมีเป้าหมายในการเพิ่มสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นไปที่ระดับ 1,000 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปีนี้

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นด้านพลังงานใหม่ๆ อาทิ การเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สอดรับกับแผนการลงทุนใน Green Logistics แบบครบวงจรของ WHA Group โดยได้ตั้งเป้าขยายการให้บริการ ครบ 120 ตู้ชาร์จภายในปีนี้

นายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า WHAUP มีความมุ่งมั่นในการแสวงหาโอกาสในการลงทุนธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานในรูปแบบต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืนทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. 2593 (Net Zero Greenhouse Gas Emissions by 2050) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.2525 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายให้ผู้ถือหุ้นไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 จำนวน 0.0600 บาทต่อหุ้น และอนุมัติจ่ายปันผลเพิ่มเติมอีก 0.1925 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของ WHAUP