ของบกลาง 500 ล้าน อุ้มปาล์ม ชดเชยค่าขนส่ง-พณ.ลั่นเกิน 3 บาท/กก.

“ประวิตร” ไฟเขียวมาตรการยกระดับราคาปาล์ม ชงของบฯกลาง500 ล้าน ชดเชยค่าขนส่งผู้ส่งออกกก.ละ 1.75 บาท “สนธิรัตน์” มั่นใจราคาปาล์มเกิน กก.ละ 3 บาท 

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 2/2561 เพื่อติดตามขับเคลื่อนการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ซึ่งมีราคาต่ำลง เนื่องจากสถานการณ์น้ำมันปาล์มตลาดโลกปี 2561 ซึ่งมีปริมาณผลผลิตและสต๊อกรวมเพิ่มขึ้นจากปี 2560และพิจารณาเห็นชอบมาตรการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม

โดยขอความร่วมมือทุกหน่วยงานเร่งนำข้อเสนอของสภาเกษตรกรแห่งชาติ และมติร่วมของที่ประชุมไปผลักดันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบ

นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ หนึ่งในกรรมการ กนป. เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ที่ประชุมมอบกรมการค้าภายในทำรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติงบประมาณกลาง 500 ล้านบาท ในสัปดาห์หน้า เพื่อช่วยชดเชยค่าขนส่งและค่าดำเนินการส่งออก กก.ละ 1.75 บาท

สำหรับผู้ส่งออกที่จะเข้ามาช่วยรับซื้อน้ำมันปาล์ม CPO ในราคา กก.ละ 19 บาทหรือคิดเป็นราคาผลปาล์ม กก.ละ 3 บาท เพื่อเร่งส่งออกให้ได้ 3 แสนตัน (ไม่นับรวมผู้ส่งออกที่ส่งออกไปในช่วงไตรมาสแรก50,000 ตัน) ภายใน 5 เดือนนับตั้งแต่เดือนพ.ค.-ส.ค.นี้ เป็นการทำการตลาดรองรับผลผลิตปาล์มน้ำมันปี 2561/2562 จะทยอยออกสู่ตลาดเดือนนี้ และออกสูงสุดในเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้

“คาดว่าหลังดำเนินมาตรการผลักดันการส่งออกไป 1 เดือน น่าจะช่วยยกระดับราคาผลปาล์มได้เกินกว่า กก.ละ 3.00 บาท เกษตรกรจำเป็นต้องเร่งพัฒนาผลผลิตคุณภาพดีให้มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงขึ้น เพราะปัจจุบันเปอร์เซ็นต์ 17-18% ขายได้ราคา กก.ละ 3.30-3.40 บาท เป็นราคาที่ขาดทุน แต่หากเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันได้เป็น 20% เกษตรกรจะได้ราคา กก.ละ 3.80 บาท หรือสูงถึงตันละ 300 บาท ไม่ต้องขาดทุน หากเทียบกับมาเลเซีย ขณะนี้ขาย CPO ในตลาดโลกที่ราคา กก.ละ 19 บาทเท่ากับไทย แต่มาเลเซียรับซื้อผลปาล์ม กก.ละ 4.20 บาท สูงกว่าไทย เพราะเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มเค้าสูงอยู่ที่ 20-22%”

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กนป.พิจารณาเห็นชอบมาตรการตามมติของคณะอนุกรรมการเสนอ 1) ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศ

กำหนดมาตรฐานโรงงานสกัดแยก และโรงสกัดรวม ต้องสกัดน้ำมันจากปาล์มทะลายได้ไม่ต่ำกว่า 18% หรือ30% 2) ขอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศผลักดันการส่งออก 3 แสนตัน ภายใน 4 เดือน

3) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ช่วยพัฒนาคุณภาพปาล์ม ตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมัน 4) การดูดซับCPO ที่มีสต๊อกสูง เพื่อผลิตไบโอดีเซล 20(บี 20) จะสามารถดูดซับซัพพลายส่วนเกินได้ปีละ 2.5 แสนตันและ 5) ให้กรมการค้าต่างประเทศเพิ่มความเข้มงวดของสินค้าผ่านแดน และป้องกันการนำเข้าน้ำมันปาล์มตามชายแดนไม่ให้เกิน 40,000 ตันต่อปี หากดำเนินการตามนี้จะช่วยดึงราคาปาล์มให้มีราคาสูงขึ้นเป็น กก.ละ 3 บาทได้