เอนซา ซาเดน ยักษ์ใหญ่อันดับ 6 ของโลกด้านการพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชผักจากเนเธอร์แลนด์ บุกลงทุนไทย จัดทำแปลงวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชที่เชียงใหม่และราชบุรี ชูพริกหวาน ผักสลัดนำร่อง เจาะตรงเกษตรกรไทย
นายยาป มาเซอร์ริว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอนซา ซาเดน จำกัด จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้ผลิตอันดับ 6 ของโลกด้านการพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชผัก เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้ามาลงทุนตั้งสำนักงานในไทยเป็นประเทศที่ 3 ในอาเซียน หลังจากลงทุนตั้งสำนักงานภูมิภาคที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์ รวมทั้งจัดตั้งแปลงวิจัยพันธุ์พืชที่ จ.เชียงใหม่และ จ.ราชบุรี เพื่อความคล่องตัวในการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรที่ล้ำหน้า ซึ่งบริษัทสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ได้สูงถึง 9 แสน กก.ต่อปี ป้อนสินค้าแก่ผู้บริโภคได้ 460 ล้านคนต่อวันใน 6 ทวีปทั่วโลก
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
การลงทุนใน 3 ประเทศรวมไทยมีมูลค่าประมาณ 25 ล้านยูโร เมล็ดพันธุ์ที่จะนำออกจำหน่ายในไทย ได้แก่ พริกหวานผักสลัดชนิดต่าง ๆ พริก บวบ ฟักทอง แตงร้าน แตงกวา และมะเขือเทศ โดยสถานีหรือแปลงที่เชียงใหม่จะเน้นการวิจัยและพัฒนา สถานีราชบุรีจะเน้นการทดสอบเมล็ดพันธุ์ก่อนออกจำหน่าย ทั้งนี้ เมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการตอบรับดีที่สุดในขณะนี้คือ พริกหวานและผักสลัด
ส่วนเป้าหมายยอดจำหน่ายในปีนี้บริษัทยังไม่ได้ตั้งเป้าแต่อย่างใด แม้จุดแข็งสินค้าของบริษัทจะอยู่ที่การวิจัยและพัฒนาหาพันธุ์ที่ดีที่สุด
“เรามีศูนย์เพาะเมล็ดพันธุ์ทั้งในส่วนภูมิภาคและในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 30 แห่ง ทำการเพาะเมล็ดพันธุ์พืชผลมากกว่า 1,200 ชนิด มีการเปิดตัวนวัตกรรมเมล็ดพันธุ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดปีละกว่า 100 สายพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ของเอนซา ซาเดนได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากเกษตรกรทั่วโลก โดยเฉพาะหัวกะหล่ำและผักกาดหอม สร้าง
สถิติมีการปลูกสูงสุดถึง 20 ล้านหัวทั่วโลก มาจากการค้นคว้าวิจัยเพื่อการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่ง 30% ของรายได้ในแต่ละปีจะถูกจัดสรรเพื่องานด้านการวิจัยพัฒนาโดยเฉพาะ เป็นภารกิจสำคัญและวิสัยทัศน์ในการก้าวไปข้างหน้าเพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับประชากรทั่วโลก ด้วยการบริโภคพืชผักที่ปลอดภัยและให้รสชาติดี ส่วนเมล็ดพันธุ์ที่จำหน่ายให้เกษตรกรปลูก ต้องมีคุณสมบัติลดการใช้น้ำ ใช้ปุ๋ย ทนแล้ง ทนฝน ปลอดภัยและมีคุณภาพ นอกจากนี้บริษัทไวทัลลิสต์ในเครือเอนซา ซาเดน ยังเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาและผลิตเมล็ดพันธุ์พืชอินทรีย์ของโลก ได้รับการการันตีรับรองให้เป็นผลิตผลออร์แกนิกหรืออินทรีย์ 100% โดยไม่ใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมีมากกว่า 500 สายพันธุ์” นายมาเซอร์ริวกล่าว
