นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมกับหน่วยงานพันธมิตร เพื่อหารือและเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาหน้ากากอนามัย จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า การระบาดดังกล่าวส่งผลให้หน้ากากอนามัยทั้งที่ใช้ในโรงพยาบาล และสำหรับประชาชนทั่วไปขาดแคลน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือกับ 11 โรงงานผู้ผลิตหน้ากากอนามัย เร่งกำลังการผลิตเต็ม Capacity ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ
ขณะเดียวกันหากผู้ผลิตรายใดไม่สามารถทำได้ ให้ส่งวัตถุดิบขายให้กับโรงงานสิ่งทอ ที่มีแรงงานเพียงพอเพื่อผลิตหน้ากากผ้าแทน
- กรุงไทย ปิดระบบ-แอป Next 11-12 และ 14 พ.ค. นี้ เช็กรายละเอียด
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- กรุงไทย เตือนลูกค้าอัพเดต Android เวอร์ชั่นล่าสุด ก่อนใช้แอปไม่ได้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้หารือโรงงานสิ่งทอกว่า 100 โรงงาน ให้ผลิตหน้ากากผ้าเพื่อประชาชน จำนวน 30 ล้านชิ้น ภายใน 1 เดือน ซึ่งเบื้องต้นหากประกาศกระทรวง กำหนดชนิดผ้าที่ปลอดภัย และสามารถผลิตเป็นหน้ากากอนามัยได้ ก็สามารถผลิตได้ทันที และจะนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายในเดือน มี.ค. 2563 นี้
“เราต้องคุยกับเอกชนก่อนว่ารายใดเขาพร้อมผลิตได้ทันที อาจมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบบางอย่างขาด ทางบีโอไอเขาจะประสานให้เจอกับผู้ที่มีวัตถุดิบ เรื่องนี้ก็จะหมดปัญหาไป ส่วนงบประมาณที่ต้องซื้อจากโรงงานทั้งหมด 30 ล้านชิ้นนั้น จะคำนวณจากต้นทุนโรงงาน และเสนอเข้าของบ ครม.”
ตัวแทนจากโรงงานสิ่งทอ กล่าวว่า โรงงานพร้อมที่จะผลิตหน้ากากผ้าได้ 30 ล้านชิ้น ต้องใช้ผ้า 1.5 ล้านหลาเพียงพอ แต่ปัญหาตอนนี้คือคุณสมบัติของชนิดผ้า เรื่องความปลอดภัย เพราะผ้าต้องมีการฆ่าเชื้อและอาจต้องทำเป็นมาตรฐาน