พลิกวิกฤตเป็นโอกาส เกษตรฯปิ๊งไอเดีย หนุนเกษตรกรผลิต “หน้ากากผ้าไหม” สู้โควิด-19

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และโควิด-19 การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตระหนักและให้ความสำคัญ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงให้กรมหม่อนไหม โดยศูนย์หม่อนไหม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถ ในพื้นที่ ทั้ง 21 ศูนย์ ได้ดำเนินการส่งเสริมการผลิตหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าไหมขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้จังหวัดต่างๆ และประชาชนได้ทำหน้ากากอนามัยใช้เอง

ทั้งนี้ การผลิตหน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าไหมจะดำเนินการในทุกจังหวัด เช่น จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีการทอผ้าไหมประมาณ 1,400 หมู่บ้าน จากจำนวนทั้งหมด 2,128 หมู่บ้าน จึงมีนโยบายรณรงค์ให้ชาวสุรินทร์ทำหน้ากากอนามัยจากผ้าไหม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ไหมสุรินทร์ เพิ่มรายได้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทอผ้าไหม และเตรียมการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในสภาพซบเซาทั้งโลก

โดยจังหวัดสระบุรี ได้ส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรังไหมประดิษฐ์ ต.ตลาดน้อย อ.บ้านหม้อ ทำการผลิตหน้ากากอนามัยจากผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติที่ผ่านการรับรองเป็นผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ไม่ตกสี

“หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าไหมที่ได้ส่งเสริมให้ผลิตขึ้นนั้น มีจุดเด่นหลายประการ โดยเฉพาะเมื่อใช้แล้วสามารถซักและนำมาใช้ได้อีก อีกทั้งสามารถกรองฝุ่นและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ และเมื่ออากาศเย็น ผ้าไหมก็จะช่วยให้ความอบอุ่นอีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากกรมวิทยาศาสตรก์ารแพทย์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อยืนยันถึงคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อโรคของหน้ากากอนามัยผ้าไหมนี้” นายอลงกรณ์ กล่าว

ด้านนางนงลักษณ์ เกตุเวชสุริยา รองอธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า ขณะนี้หน้ากากผ้าไหม จ.สุรินทร์ที่ผลิตมีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบที่ 1 มี 3 ชั้น ชั้นที่ 1 ด้านนอกเป็นผ้าไหม ชั้นที่ 2 ผ้ากรองเชื้อ ชั้นที่ 3 ด้านในเป็นผ้าสาลู แบบที่ 2 มี 2 ชั้น ชั้นที่ 1 ด้านนอกเป็นผ้าไหม ชั้นที่ 2 ด้านในเป็นผ้าสาลู มีเปิดช่องตรงกลางระหว่างผ้าชั้นนอกกับชั้นใน ให้สามารถสอดแผ่นกรองได้ และเมื่อเร็วๆ นี้ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ซี่งได้เสด็จมาที่เรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน เรือนจำกลางสุรินทร์ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา

ส่วน จ.สระบุรี มี 2 แบบคือ แบบที่ 1 ผ้าฝ้ายลายไทย และ แบบที่ 2 มี 2 ชั้น ชั้นที่ 1 ด้านนอกเป็นผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ ชั้นที่ 2 ด้านในเป็นผ้าสาลู สำหรับกำลังการผลิตขณะนี้อยู่ที่ 200 ชิ้นต่อวัน และจะขยายไปยังเครือข่ายต่างๆ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตามการสั่งซื้อจำนวนมากได้อีกด้วย