หอการค้า ไม่หวั่นสหรัฐตัดจีเอสพี ชี้เวียดนามก็โดนเรื่องค่าเงินด่อง

ภาพโดย awadpalestine จาก Pixabay

หอการค้า ไม่หวั่นสหรัฐตัดจีเอสพี ชี้เวียดนามก็โดนเรื่องค่าเงินด่องด้วย จี้รัฐเร่งแก้เกมส่งออก ปลดล็อกปัญหาค่าบาท เดินหน้าเจาะตลาดจีนชดเชยสหรัฐ เร่งสปีดเอฟทีกับ ‘เออียู-ยูเค’

วันที่ 31 ตุลาคม 2563 นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า จากการวิเคราะห์ผลกระทบกรณีสหรัฐระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) สินค้าไทย 817 ล้านเหรียญ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ เป็นการตัดจีเอสพีครั้งที่สอง

จากก่อนหน้านี้ที่ตัดสิทธิ์สินค้าไทย 573 รายการ มูลค่า 1,300 ล้านเหรียญ จะกระทบต่อการส่งออกไม่มากหากเทียบกับผลกระทบจากค่าบาทแข็งค่า

ดังนั้น ไทยควรเร่งแก้ไขปัญหาค่าบาทแข็งค่า เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งทางหอการค้าฯ ได้เสนอทางรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ไปแล้วในการประชุม กรอ.พาณิชย์ครั้งที่ผ่านมา

“ไทยส่งออกไปสหรัฐ ปีละ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เกินดุลการค้าเป็นเหตุให้เค้าพิจารณาตัดสิทธิ์ไทย แต่เทียบเวียดนามก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะส่งไปสหรัฐมาก เกินดุลการค้าเช่นกัน ถูกขึ้นวอทลิสต์ไปก่อนไทย เพราะเรื่องการใช้มาตรการดูแลค่าเงินด่องจนส่งผลให้เกินดุลการค้า เทียบแล้วได้รับผลกระทบพอๆกัน”

อย่างไรก็ตาม ไทยยังสามารถผลักดันการส่งออกไปตลาดอื่น โดยเฉพาะตลาดจีน เพื่อชดเชยการส่งออกไปสหรัฐที่ลดลงได้ เพราะเป็นตลาดมีขนาดใหญ่ และเศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวหลังจากโควิด ทั้งยังเริ่มมีการผลิตวัคซีนโควิกแล้ว

ส่วนการแก้เกมในตลาดสหรัฐหลังจากนี้ ไทยต้องติดตามการเลือกตั้ง หากไบเดนชนะ โอกาสที่จะกลับมาฟื้นเจรจาความตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) รวมถึงการย้อนกลับสู่การเจรจา CPTPP ซึ่งจะเป็นการลดภาษีถาวร

นอกจากนี้ ไทยควรเร่งเปิดเจรจาความตกลงการค้าเสรี กับประเทศอื่น เช่น เอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป,เอฟทีเอไทย-สหราชอาณาจักร (ยูเค) หลังจากการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งจะเป็นการสร้างแต้มต่อทางการค้า

“การส่งออกจะยังไม่กระทบแบบมีนัยยะสำคัญ แต่เราต้องใช้ทุกเครื่องมือทุกวิธีการที่สร้างโอกาสทางการค้า”