“พาณิชย์” ทำลายของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท สร้างความเชื่อมั่นให้คู่ค้า และนักลงทุน ของละเมิดจะไม่กลับเข้าสู่ตลาดอีก
วันที่ 13 กันยายน 2564 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยระหว่างเป็นประธานในพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ประจำปี 2564 โดยมีหน่วยงานทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 70 แห่ง ร่วมเป็นสักขีพยาน ว่า
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ ได้เดินหน้าปราบปรามการละเมิดอย่างจริงจังทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และได้นำของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาดำเนินการทำลาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วนว่าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวจะไม่กลับสู่ท้องตลาดอีกต่อไป
สำหรับของกลางที่ถูกนำมาทำลายในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 572,076 ชิ้น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ และเครื่องสำอาง เป็นต้น โดยเป็นของกลางจากการจับกุมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 56,501 ชิ้น กรมศุลกากร 435,049 ชิ้น และกรมสอบสวนคดีพิเศษ 80,526 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
“ของกลางในคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว จะต้องนำมาทำลายด้วยวิธีที่เหมาะสม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้ค้า นักลงทุน และเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาว่าสินค้าละเมิดจะไม่ถูกนำกลับมาหมุนเวียนในท้องตลาดอีก และยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้สาธารณชนได้รับทราบว่าสินค้าละเมิดเป็นสินค้าด้อยคุณภาพหรือบางรายการอาจเป็นอันตรายส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค จึงอยากให้ผู้บริโภคตระหนักในเรื่องดังกล่าวด้วย”
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “ไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้ของปลอม” โดยหากพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร.1368
