เอ็กโก กรุ๊ป ลั่นปี’65 เพิ่มกำลังการผลิตอีกเกิน 1 พันเมก

เอ็กโก กรุ๊ป ลั่นปี’65 เพิ่มกำลังการผลิตอีกเกิน 1 พันเมก พร้อมจับตาราคาแอลเอ็นจี รับปัจจุบันยังสูง ก่อนหาพันธมิตรช่วยนำเข้าในปีหน้า

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 5,959 เมกะวัตต์ ซึ่งในปี 2564 นี้ บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าได้เกินกว่าแผนที่ตั้งไว้ 1,000 เมกะวัตต์

ส่วนหนึ่งมาจากการปิดดีลการลงทุนในบริษัท เอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง แอลแอลซี (เอเพ็กซ์) ในสัดส่วน 17.46% ที่เป็นผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ขณะที่ในปี 2565 นั้นบริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทได้อีกมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ เนื่องจากมีอีกหลายโครงการที่ยังอยู่ในแผนการพัฒนาซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ภาพรวมการผลิตไฟของเอ็กโกเติบโต และจะสามารถผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตตามมาด้วย

“ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 จนถึงปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการเปิดพื้นที่การลงทุนใหม่ในสหรัฐอเมริกา โดยเข้าไปลงทุนในโรงไฟฟ้า “ลินเดน โคเจน” ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เป็นโครงการแรก ตามมาด้วยการเข้าไปลงทุนใน “เอเพ็กซ์” บริษัทพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เอ็กโก กรุ๊ป มีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่โครงการใหม่อีกหลายโครงการในอนาคต” นายเทพรัตน์กล่าว

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โครงการ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้า 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเล หยุนหลิน ในไต้หวัน ก่อสร้างแล้วเสร็จ 71% โดยปัจจุบันกังหันลม 2 ต้น จำนวน 16 เมกะวัตต์ ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. และ 11 พ.ย. 64 ตามลำดับ

ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปี’64 ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ น้ำเทิน 1 ใน สปป.ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จ 94% นอกจากนี้ยังมีโครงการธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อสร้างแล้วเสร็จ 89% ในขณะที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการ

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2564 เอ็กโก กรุ๊ป มีกำไรสุทธิ 1,074 ล้านบาท ลดลง 1,193 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลกระทบทางบัญชีที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

เนื่องจากการแปลงมูลค่าหนี้สินระยะยาวเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินบาทจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท และการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 จำนวน 3,170 ล้านบาท ลดลง 3,759 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายเทพรัตน์กล่าวถึงแผนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ว่าหลังจากที่เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ประกอบการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นั้น ล่าสุดได้ขอปรับแผนนำเข้าแอลเอ็นจีว่าจะนำเข้าอย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 3 ปี 2565

เนื่องจากต้องยอมรับว่าในช่วงนี้ราคาแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้นไปสูงอย่างมาก ซึ่งต้องมองไปยังปีหน้าว่าจะมีโอกาสที่จะนำเข้าได้ไหม จากเรื่องราคาที่จูงใจ และจะต้องมีการร่วมมือกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้วย

ขณะที่ทิศทางการลงทุนในอนาคตเอ็กโก กรุ๊ป ยังมุ่งต่อยอดธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ในขณะเดียวกัน ได้เร่งขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนยังมุ่งเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อให้สอดรับกับทิศทางพลังงานโลกและแผนพลังงานชาติ

โดยตั้งเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2593 และเป้าหมายลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ 10% ภายในปี 2573