WHA อัดงบฯลงทุน 5 หมื่นล้าน ลุย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ปี’65

WHA

WHA เปิดแผนปี 2565 พร้อมอัดงบฯลงทุน 5 หมื่นล้านบาท ลุย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปี 2565 เติบโต 10%

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2565 บริษัทตั้งงบฯลงทุน 50,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนภายใน 5 ปี โดยงบฯดังกล่าว จะลงทุนสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ 18,000 ล้านบาท ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 18,000 ล้านบาท ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน 10,000 ล้านบาท และอีก 4,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจสตาร์ตอัพและเทคโนโลยี

ขณะที่ในปี 2564 ที่ผ่านมาของบริษัทมีรายได้ที่เติบโตสูงถึง 28% โดยบริษัทมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรรวม 12,000 ล้านบาท พร้อมสินทรัพย์รวมแตะ 83,000 ล้านบาท และคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ A-

“ทำให้เรามองปี 2565 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เราจะทรานส์ฟอร์มธุรกิจทุกฮับของเราให้เป็นดิจิทัลต่อไป โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะและนวัตกรรมเพื่อยกระดับการดำเนินงานของเราให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ ด้วยเป้าหมายทรานส์ฟอร์มแกนหลักของธุรกิจสู่ดิจิทัล ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปได้ริเริ่มโครงการเทคโนโลยีดิจิทัลขึ้นมาถึง 33 โครงการในปี 2564 ครอบคลุมธุรกิจของบริษัทในทุกด้าน โดยก้าวต่อไปของการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลของดับบลิวเอชเอคือ การใช้เทคโนโลยีเพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่ ๆ จากผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนโรดแมปของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่ตั้งเป้าหมายจะก้าวเป็นบริษัทเทคโนโลยีให้ได้ภายในปี 2567

วางเป้ารายได้ปี’65 ให้เติบโต

นางสาวจรีพรกล่าวอีกว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปี 2565 เติบโต 10% จากปีก่อนที่คาด 1.2 หมื่นล้านบาท วางเป้าหมายยอดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมที่ 1,250 ไร่ เพิ่มขึ้น 46% แบ่งเป็นยอดขายที่ดินนิคมในประเทศ 950 ไร่ และเวียดนาม 300 ไร่ ซึ่งการเติบโตรายได้ในปีนี้จะมาจากการฟื้นตัวของกล่มธุรกิจนิคมเป็นหลัก ที่จะเห็นยอดขายที่ดินนิคมกลับมาฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ทั้งในไทยและเวียดนาม และส่งผลต่อธุรกิจบริหารจัดการและขายน้ำในนิคมที่เติบโตขึ้น จากการที่โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ กลับมาดำเนินการผลิตตามปกติ และธุรกิจคลังสินค้ายังมีผู้เช่ารายใหม่ ๆ เข้ามาเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

“ปีนี้ทุกกลุ่มธุรกิจจะโตโดดเด่น เทรนด์ลูกค้าเก่าในนิคมขยายธุรกิจเยอะ และมีความต้องการของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว ดีมานด์ยังมีอยู่ ทั้งลูกค้ากลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ศักยภาพการเติบโตยังมีอยู่ ขออย่าปิดประเทศ อย่าล็อกดาวน์ มั่นใจเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ 1,250 ไร่ ทำได้แน่”

ลุยขยายนิคมต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มีจำนวนที่ดินที่มีอยู่ 12,100 ไร่ ซึ่งรวมที่ดินอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้วพร้อมขายทั้งสิ้น 4,160 ไร่ ที่ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ โดยคาดว่า WHAID จะได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีน เป็นผลจากความตึงเครียดทางการค้า ค่าแรง หรือการขาดแคลนพลังงาน จะเห็นได้จากสัดส่วนลูกค้าชาวจีนของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนกว่า 50% ของยอดขายที่ดินทั้งหมด

ในช่วง 5 ปีข้างหน้า WHAID มีแผนที่จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยในปี 2565 บริษัทเตรียมขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 (เพิ่มอีก 580 ไร่) โดยได้เริ่มการก่อสร้างในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ที่ผ่านมา และรวมถึงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง เฟสแรก (1,100 ไร่) ที่เป็นโครงการร่วมทุนกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด ซึ่งกำหนดจะเริ่มพัฒนาในปลายปี 2565

นิคมฯ เวียดนามเฟส 2

นอกจากนี้ ในประเทศเวียดนาม WHAID จะต่อยอดความสำเร็จของโครงการเหงะอาน เพื่อขยายธุรกิจของบริษัทไปสู่ระดับประเทศ โดยเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน เหงะอาน เฟส 1 พื้นที่ 900 ไร่ ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และการดูแลสิ่งแวดล้อมคุณภาพสูงสุด

โดยมีนักลงทุนจากฮ่องกง ญี่ปุ่น ไทย จีน และเวียดนาม จากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่าพื้นที่แล้วกว่าครึ่งหนึ่ง และด้วยความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทมีแผนที่จะเร่งพัฒนาเฟสต่อ ๆ ไป ซึ่งรวมถึงเฟสที่ 2 (พื้นที่ 2,200 ไร่) ที่มีกำหนดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมทั้งเฟส 1, 2 และส่วนต่อขยาย เขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน เหงะอาน จะมีพื้นที่โดยรวมทั้งสิ้น 11,550 ไร่

หลังจากมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงในเดือนธันวาคม 2563 กับคณะกรรมการประชาชนจังหวัดทัญฮว้า ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเขตอุตสาหกรรมใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการ “WHA Smart Technology Industrial Zone-Thanh Hoa” ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองหลักของจังหวัด มุ่งตอบโจทย์ความต้องการจากนักลงทุนด้านเทคโนโลยีมูลค่าสูง ในขณะที่โครงการ “WHA Northern Industrial Zone-Thanh Hoa” ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ใกล้กับศูนย์ปิโตรเคมี Nghi Son จะมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายอุตสาหกรรมกลางน้ำและปลายน้ำ โดยคาดว่าการย้ายชุมชนและการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการในปี 2566 และ 2567 ตามลำดับ