วิทยาลัยดุสิตธานีสร้างชื่อด้วยการเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรก และแห่งเดียวของประเทศไทย ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐาน “เวิลด์เชฟ” จาก WACS (World Association of Chefs” Societies : WACS) เทียบชั้น 70 สถาบันคุณภาพทั่วโลก
“ดร.สาโรจน์ พรประภา” อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวว่าวิทยาลัยดุสิตธานีผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานการเรียนการสอนด้านการประกอบอาหารจาก World Association of Chefs” Societies(WACS) หรือสมาคมเชฟโลก เป็นเครือข่ายของสมาคมเชฟทั่วโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1928 ณ กรุงปารีส โดยปัจจุบันมีสมาคมเชฟ 72 แห่งทั่วโลกเป็นสมาชิก ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างกรอบมาตรฐานอาชีพเชฟ หรือพ่อครัวในตำแหน่งต่าง ๆ
นอกจากนี้ WACS ยังจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมพ่อครัวให้มีมาตรฐานในการทำงาน โดยเป้าหมายสำคัญขององค์กรแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ งานด้านการศึกษา เน้นให้การรับรองสถาบันที่สอนด้านศิลปะการประกอบอาหาร (culinary arts) ทั่วโลก
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- ประวัติ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯคนใหม่สิงคโปร์ เขาเป็นใคร มาจากไหน
- ธุรกิจถอยสิ้นยุคกัญชาเสรี จ่อปิดหมื่นร้าน-สินค้าโบกมือลา
โดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 12 ข้อ ได้แก่ คุณภาพและคุณวุฒิของอาจารย์ผู้สอน, ความพร้อมของห้องปฏิบัติการและสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนการสอน, โครงสร้างหลักสูตร, การได้รับการรับรองจากองค์กรภาครัฐ, การทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอก เป็นต้น
สถาบันที่ผ่านการรับรองจะปรากฏในเว็บไซต์ของ WACS ในส่วนของ approved school หรือสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรองแล้ว โดยสามารถนำตราสัญลักษณ์ไปใช้ในการประชาสัมพันธ์สถาบันได้ ขณะเดียวกันยังมีการรับรองในส่วนของผู้สอน หรือ educator อีกด้วย
ส่วนเป้าหมายที่ 2 จะมุ่งเน้นงานด้านการแข่งขัน (competition) ซึ่งเป็นการแข่งขันประกอบอาหารที่มีการจัดระดับว่าเป็น national, international, continentalและ global โดย WACS จะสร้างมาตรฐานของคณะกรรมการตัดสินผ่านระบบการอบรมและเกณฑ์ในการตัดสินที่เป็นระบบ
“การรับรองมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพของหลักสูตร บุคลากร สถานที่ และอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ ทำให้วิทยาลัยดุสิตธานีเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรก และแห่งเดียวของประเทศไทยในขณะนี้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานดังกล่าว โดยปัจจัยที่ทำให้วิทยาลัยดุสิตธานีผ่านการประเมินของ WACS มาจากโครงสร้างหลักสูตรที่เน้นให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง และสามารถทำงานได้ตลอดจนความหลากหลายของรายวิชา และคุณภาพของห้องปฏิบัติการที่เอื้ออำนวยต่อการฝึก รวมถึงอาจารย์ผู้สอนมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการสอน”
“การผ่านมาตรฐานของ WACS แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการพัฒนาการเรียนการสอน และหลักสูตรของเราว่าเป็นที่ยอมรับในระดับโลก อันสอดคล้องกับเป้าหมายของวิทยาลัยที่ต้องการสร้างสุดยอดเชฟป้อนสู่เวทีเชฟโลก และเราเชื่อว่าสถาบันการศึกษามีส่วนอย่างมากที่จะช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมอาหาร ท่องเที่ยว และบริการของไทย ให้มีความแข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืน”
“ดร.สาโรจน์” กล่าวย้ำถึงเป้าหมายของวิทยาลัยดุสิตธานีด้วยว่า จะมุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้าน ประกอบด้วย การพัฒนาด้านกายภาพ ซึ่งเป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อมของวิทยาลัยในการส่งเสริมประสบการณ์การเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น ทั้งแง่ของอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักศึกษาและคณาจารย์ ถัดมา คือ การพัฒนาด้านหลักสูตร โดยเปิดหลักสูตรใหม่ทั้งระดับปริญญาตรี เช่น หลักสูตรด้านนวัตกรรมการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยว และโรงแรม หลักสูตรปริญญาโท รวมถึงหลักสูตรอบรมระยะสั้นที่หลากหลาย
และสุดท้ายเป็นการพัฒนาด้านความร่วมมือกับสถาบันนานาชาติให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
