WBE พัฒนาทักษะนักศึกษาสำหรับโลกยุคใหม่

ปัจจุบันการศึกษาไทย ให้ความสำคัญไปกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยคำนึงถึงองค์ความรู้ ที่ผู้เรียนจะสามารถนำไปใช้ประกอบการทำงานได้ในอนาคต กระนั้นท่ามกลางสังคมที่มีนักศึกษาจบใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี จากผลวิจัยระดับโลกพบว่า คนหนุ่มสาวทั่วโลกกว่า 75 ล้านคนไม่มีงานทำ ในขณะที่ด้านผู้ประกอบการเอง ไม่สามารถหาบุคลากรมาทำงานในองค์กรได้เพียงพอ สาเหตุจากขาดคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยจาก National Training Laboratories ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ความรู้ที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้หลังจากการเรียนโดยการฟังและการอ่าน มีสัดส่วนเพียง 5-10% จากการเรียนรู้ทั้งหมด ในขณะที่ผู้เรียนสามารถประยุกต์ความรู้จากการเรียนรู้ขณะการทำงานจริงได้ถึง 75% ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า การเรียนการสอนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่คำตอบของรูปแบบการเรียนการสอนอีกต่อไปแล้ว

“อาจารย์ พรวิทย์ พัชรินทร์ตนะกุล” รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) กล่าวว่า การศึกษารูปแบบ Work-based Education (WBE) เข้ามาเพิ่มศักยภาพของการศึกษามากขึ้น โดยเน้นจุดเด่นให้นักศึกษาสามารถสัมผัสประสบการณ์การทำงานจริงในขณะเรียน ผ่านโมเดล “เรียนทฤษฎีควบคู่การฝึกปฏิบัติงาน” ที่นำมาซึ่งทักษะสำคัญทั้ง 3 ได้แก่ 1) ทักษะด้านอาชีพ (Professional skills) คือองค์ความรู้ วิชาการที่ใช้ในการประกอบอาชีพ 2) ทักษะด้านสังคม (Social Skills) คือความสามารถในการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม มีมนุษยสัมพันธ์ การอยู่ร่วมในสังคม และ 3) ทักษะด้านการดำเนินชีวิต (Life Skills) คือทักษะที่พัฒนาทัศนคติในการดำเนินชีวิต ทักษะการจัดการปัญหา อารมณ์ และการปรับตัวเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางสภาพสังคมและความเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน

“รูปแบบการเรียนดังกล่าวนำมาใช้จริงแล้ว โดยนักศึกษาพีไอเอ็มจะได้ลงสนามการทำงานในสถานประกอบการจริงที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่เรียน เพื่อให้สามารถบูรณาการทฤษฎีกับภาคปฏิบัติ มาประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง ซึ่งมีอัตราส่วนการฝึกงานจริงสูงถึง 40% จากเวลาทั้งหมดของหลักสูตร สลับกับการเรียนในห้องเรียน โดยคณาจารย์ผู้มีประสบการณ์ในการทำงาน ตลอดจนมีวิทยากรจากองค์กรเครือข่ายชั้นนำกับพีไอเอ็ม มาร่วมสอนในลักษณะเวิร์กช็อป ถ่ายทอดกรณีศึกษา วิเคราะห์และฝึกปฏิบัติโดยเจ้าของธุรกิจ หรือผู้ปฏิบัติงานจริง ซึ่งถือเป็นการพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่นักศึกษา ที่จะต้องตอบสนองตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันทั้งทางด้านความต้องการกำลังคน และศักยภาพของแรงงาน

“อาจารย์ พรวิทย์” กล่าวด้วยว่า กระบวนการ WBE จะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากปราศจากเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ โดยพีไอเอ็มเป็นมหาวิทยาลัยแห่งองค์กรธุรกิจ หรือ Corporate University ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยมีเครือข่ายภาคการศึกษาและเครือข่ายภาคธุรกิจในและต่างประเทศ ที่ให้ความเชื่อมั่นและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคน ร่วมออกแบบการเรียนรู้ ต่อยอดเป็นงานวิจัยและนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงจากทั่วทุกทวีปทั่วโลก สามารถรองรับการฝึกงานตรงตามสายงานที่นักศึกษาเรียนได้อย่างทั่วถึง ซึ่งสะท้อนจุดแข็งของการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเน็ตเวิร์กกิ้ง (Networking University) ที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศ ส่งผลให้นักศึกษามีโอกาสเลือกสถานที่ฝึกงานตลอดการศึกษา รวมถึงรูปแบบงานได้หลากหลาย ตรงกับความต้องการและสายงานที่เรียน เข้าฝึกปฏิบัติงานเสมือนเป็นพนักงานตัวจริงในบริษัทธุรกิจชั้นนำของโลก

“นอกจากนี้ จากปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพื่อให้ตอบสนองตลาดการแข่งขันในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น พีไอเอ็ม ยังตั้งเป้าหมายเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของอาเซียน โดยการพัฒนาหลักสูตรสำหรับนักศึกษาในและต่างประเทศ ที่ผ่านมา มีการเปิดหลักสูตรนานาชาติที่เป็นที่ต้องการในกลุ่มองค์กรธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่ (Modern Trade Business Management) และพีไอเอ็ม จะเปิดอีก 2 หลักสูตรนานาชาติที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานอย่างมาก อย่าง หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีฟาร์ม (Farm Technology Management) และ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีแปรรูปอาหาร (Food Processing Technology Management) ในปี 2561”

จนถึงวันนี้ พีไอเอ็มยังคงไม่หยุดที่จะสร้างเครือข่ายอันทรงประสิทธิภาพ เพราะเชื่อว่า การเชื่อมต่อโลกของการศึกษา จะช่วยให้ผู้เรียนมีข้อได้เปรียบในตลาดแรงงานยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี