บลจ.กรุงศรี เสนอขาย 3 คู่หูกองทุน SSF/RMF 6-12 ก.ย.นี้

หุ้นกู้

บลจ.กรุงศรี เสนอขาย SSF-RMF ใหม่ 3 คู่ คัดสรรจากกองทุนฮิตอย่าง KFCMEGA, KFESG, KFVIET เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 6-12 ก.ย. 65

วันที่ 5 กันยายน 2565 นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุน SSF/RMF ใหม่ 3 คู่ รวม 6 กองทุน ซึ่งคัดสรรมาจากกองทุนรวมที่มีศักยภาพในการเติบโต มีธีมการลงทุนที่เหมาะสมกับการลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบันและมีแนวโน้มเติบโตไปกับอนาคต คือกองทุน KFCMEGA, KFESG, KFVIET เพื่อเพิ่มทางเลือกในการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้พอร์ตเติบโตในระยะยาวไปพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี

สำหรับกองทุน KFCMEGASSF และ KFCMEGARMF กองทุนหลักคือ KFCMEGA กระจายการลงทุนใน ETF ที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเมกะเทรนด์ในจีน ครอบคลุมการลงทุนในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยของจีน บริษัทเทคโนโลยีของจีนซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลกทั้งหุ้นที่จดทะเบียนในตลาด A-shares, H-shares และ ADRs พลังงานทางเลือก รถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ ซึ่งล้วนแต่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ถือเป็น ธีมการลงทุนที่เป็นเมกะเทรนด์และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกหลายเท่าจากปัจจุบัน

กองทุน KFESGSSF และ KFESGRMF มีนโยบายลงทุนใน AB Sustainable Global Thematic Portfolio, Class S1 USD (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในธุรกิจที่มีแนวทางสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยคัด 3 ธีมการลงทุนหลักที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ สุขภาพ และการเสริมสร้างบทบาทและความเท่าเทียม เช่น การศึกษา การเงิน ไอทีและการสื่อสาร

ทั้งนี้ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ มี 193 ประเทศให้ความร่วมมือและคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 90 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนสำหรับการเติบโตในระยะยาวกับธีมแห่งความยั่งยืน

ในส่วนของกองทุน KFVIETSSF และ KFVIETRMF ลงทุนผ่านกองทุนเปิดกรุงศรีเวียดนามอิควิตี้ (KFVIET) ที่มีนโยบายการลงทุนแบบ Fund of Funds โดยผสมผสานการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนทั้งในกองทุนแบบ Active และ Passive เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด นอกจากนี้เวียดนามยังมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดี ค่าเงินดองมีเสถียรภาพสูง เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก

และมีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคในประเทศ มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ เป็นฐานการผลิตสินค้าที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก รวมทั้งมีการลงทุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ตลาดหุ้นเวียดนามยังมีโอกาสเข้าสู่ MSCI Emerging Market ภายในปี 2025 ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเวียดนามอีกด้วย

“SSF/RMF ทั้ง 3 คู่คัดสรรมาแล้วว่าเหมาะกับเป้าหมายการลงทุนระยะยาวของผู้ที่ไม่ได้ต้องการเพียงสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเดียว แต่ต้องการเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนด้วย เพราะเป็นกองทุนที่เน้นหุ้นกลุ่มที่มีศักยภาพการเติบโตไปได้ไกลในอนาคต” นางสุภาพรกล่าว

โดย KFCMEGASSF และ KFCMEGARMF มีนโยบายลงทุนกรุงศรีไชน่าเมกะเทรนด์ (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6 : เสี่ยงสูง และป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก

ส่วน KFESGSSF และ KFESGRMF มีนโยบายลงทุนใน AB Sustainable Global Thematic Portfolio, Class S1 USD (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6 : เสี่ยงสูง และป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (ไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)

ด้าน KFVIETSSF และ KFVIETRMF มีนโยบายลงทุนในกองทุนเปิดกรุงศรีเวียดนามอิควิตี้ (KFVIET) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6 : เสี่ยงสูง และป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก