“เอ็มเอไอ” เฮ! รัฐเว้นภาษี 2 เด้ง ดึงเอสเอ็มอี “ถือสิทธิ BOI” เข้าจดทะเบียน

เอสเอ็มอีไทยเฮรับ 2 เด้งภาษี รัฐทุ่มสุด ๆ หนุนบริษัทที่ได้ BOI เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น mai รับสิทธิประโยชน์เว้นภาษีเต็ม 100% ตั้งแต่ปี 2561-2563 ฟากผู้จัดการตลาดเอ็ม เอ ไอ อ้าแขนรับกลุ่มเอสเอ็มอีไทยแห่เข้าช่วง 3 ปีข้างหน้าคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ลงประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เรื่องมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีสาระสำคัญ คือ การกำหนดให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งได้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคลตามสิทธิประโยชน์ BOI ที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ให้ได้สิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมอีก 100% ของเงินลงทุน (แต่ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาศักยภาพและการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai

สำหรับโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม BOI แล้ว แม้จะมีรายได้แล้วก็ตามแต่สามารถขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้ โดยในวันที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการนี้ จะต้องมีสิทธิประโยชน์ทาง BOI เหลืออยู่ทั้งระยะเวลาและวงเงินที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

ขณะที่บริษัทที่จะได้รับสิทธินี้ จะต้องจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ก่อนจะยื่นขอรับการส่งเสริมภายใต้มาตรการนี้ และจะต้องยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามมาตรการนี้ ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2563 สำหรับบริษัทที่ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้น mai อยู่แล้วก่อนวันที่ 23 พ.ย. 2560 (วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ) ถือว่า “หมดสิทธิ์” เพราะไม่อยู่ในข่ายขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการนี้ได้

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยจูงใจให้บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับการส่งเสริมสิทธิประโยชน์ทาง BOI อยู่แล้ว หันมาจดทะเบียนในตลาด mai เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น mai ในช่วงปี 2561-2563 คาดว่าจะเร่งเข้าจดทะเบียนมากขึ้น เพื่อรับสิทธิทางภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นถึง 2 เด้ง

Advertisment

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีบริษัทที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น mai แล้วกว่า 100 บริษัท ซึ่งได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้ตรวจสอบบัญชีเรียบร้อยแล้ว และบางส่วนก็เป็นบริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI รวมอยู่ด้วย โดยคาดว่าแต่ละปีจะมีบริษัทหน้าใหม่ ๆ เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ได้เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 15 บริษัท

สำหรับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ mai ล่าสุดมีจำนวน 151 บริษัท ซึ่งแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.บริษัทที่มีมูลค่าราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ตั้งแต่ 0-1,000 ล้านบาท จำนวน 61 บริษัท 2.มาร์เก็ตแคปตั้งแต่ 1,001-2,000 ล้านบาท จำนวน 47 บริษัท 3.มาร์เก็ตแคปตั้งแต่ 2,001-3,000 ล้านบาท จำนวน 11 บริษัท และ 4.มาร์เก็ตแคปตั้งแต่ 3,000 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 32 บริษัท

“ที่ผ่านมา ตลท.ทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเป็นคนขอให้รัฐขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดเพียง 2 ปี ขณะที่สาเหตุของการออกมาตรการนี้ เพราะรัฐบาลอยากจะสนับสนุนให้กลุ่มเอสเอ็มอีเข้ามาจดทะเบียนในตลาด mai เพื่อเข้าถึงแหล่งระดมทุนได้ง่ายมากขึ้น โดยเบื้องต้นมีบริษัทใน mai ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้แล้วคือ บมจ.ซันสวีท (SUN)” นายประพันธ์กล่าว