ธปท.ปรับปรุงสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนให้ครอบคลุม ดึงผู้ให้กู้ 4 กลุ่ม “กยศ.-สหกรณ์-การเคหะ-พิโกไฟแนนซ์” ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้น 7.66 แสนล้านบาท ดันสัดส่วนเป็น 90.6% ของจีดีพี หรือ 16.0 ล้านล้านบาท
วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับปรุงความครอบคลุมของสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนให้มีความครบถ้วนมากขึ้น
- จีนแบน 3 บริษัทสหรัฐ ห้ามทำการค้า ห้ามผู้บริหารเข้าประเทศ
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
โดยประเมินแล้วว่าข้อมูลใหม่ 1.มีความน่าเชื่อถือของวิธีการจัดเก็บและประมวลผล 2.มีคุณภาพอธิบายการเปลี่ยนแปลงทางสังคมศรษฐกิจได้ 3.มีความถี่ของการจัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลที่สม่ำเสมอ และ 4.ไม่ล่าช้าเกินไป
ทั้งนี้ ความครอบคลุมที่เพิ่มขึ้นมาจากผู้ให้กู้ 4 กลุ่ม โดยยอดหนี้แต่ละกลุ่ม ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 มีดังนี้ เงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 4.83 แสนล้านบาท สหกรณ์อื่น ๆ (ที่ไมใช่สหกรณ์ออมทรัพย์) 2.65 แสนล้านบาท การเคหะแห่งชาติ 1.1 หมื่นล้านบาท และฟิโกไฟแนนซ์ 6 พันล้านบาท
ซึ่ง ธปท. มีข้อมูลของกลุ่มผู้ให้กู้เหล่านี้ ตั้งแต่ปี 2555 จึงปรับข้อมูลย้อนหลังไปถึงไตรมาส 1 ปี 2555 ยอดหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากชุดข้อมูลที่ปรับปรุงใหม่นี้ เป็นหนี้ที่มีอยู่แล้ว ไม่ใช่หนี้ที่เพิ่งเกิดใหม่ โดย ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 มียอดหนี้เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 7.66 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อการศึกษา 4.85 แสนล้านบาท และหนี้เพื่อการประกอบอาชีพ 1.83 แสนล้านบาท
ดังนั้น ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนหลังปรับปรุงมียอดคงค้าง 16.0 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90.6% ต่อของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากข้อมูลก่อนปรับปรุง 4.3% ต่อจีดีพีนอกจากนี้ โครงสร้างสัดส่วนที่จำแนกตามวัตถุประสงค์การกู้ยืมไม่แตกต่างจากข้อมูลก่อนปรับปรุง
