FETCO เสนอรายงาน “ตลาดหุ้นไทยกับการจ่ายภาษีให้ภาครัฐ” ชูบทบาทสำคัญพัฒนาเศรษฐกิจไทย
วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ได้นำเสนอรายงาน เรื่อง “ตลาดหุ้นไทยกับการจ่ายภาษีให้ภาครัฐ” โดยระบุว่า ทุกคนในประเทศล้วนมีหน้าที่ต้องจ่ายภาษีให้กับภาครัฐ ไม่เพียงแต่ประชาชนที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น แต่บุคคลที่เป็นองค์กร หรือเรียกว่า “นิติบุคคล” ก็มีหน้าที่เสียภาษีให้กับประเทศด้วยเช่นเดียวกัน
- ครม.ใหม่ถวายสัตย์ เศรษฐา-เพื่อไทย รุกแก้เศรษฐกิจ
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 2 พ.ค. 2567
- รมว.อุตสาหกรรม จี้ปลัดรู้ก่อน อธิบดีกรมโรงงานฯ ลาออก ไม่รายงาน
โดยเฉพาะองค์กรหรือบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ก็ล้วนมีส่วนสำคัญในการจ่ายภาษีให้ภาครัฐเพื่อนำไปพัฒนาประเทศทั้งสิ้น
ซึ่งบทบาทของตลาดหุ้นไทยกับการจ่ายภาษีให้กับภาครัฐนั้น จะมีความสำคัญอย่างไร ?
ตลาดทุนประกอบด้วยผู้มีส่วนร่วมเกี่ยวข้องหลายฝ่าย ซึ่งมีส่วนในการสร้างงาน สร้างนวัตกรรม สร้างกำลังซื้อผ่านการจ้างงาน และสร้างผลกำไร ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างรายได้ให้ภาครัฐผ่านการมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษี และเป็น “ห่านทองคำ” อีกตัวหนึ่งในการเสริมสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556-2565) รัฐบาลไทยจัดเก็บภาษีสุทธิหลังหักการจัดสรรแล้วเฉลี่ยปีละ 2.37 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่ประมาณ 80% จัดเก็บโดยกรมสรรพากร และกว่า 631,000 ล้านบาทเป็นการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล
หากพิจารณาเฉพาะภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจากงบการเงินรวม พบว่าในปี 2565 บริษัทจดทะเบียนไทย 813 บริษัท จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมสูงสุดในประวัติศาสตร์ด้วยมูลค่ารวมกว่า 375,000 ล้านบาท คิดเป็น 50.2% ของภาษีนิติบุคคลที่กรมสรรพากรจัดเก็บทั้งหมดในปี 2565
กลไกการเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นไทยช่วยให้ภาครัฐจัดเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จากมูลค่าภาษีเงินได้นิติบุคคลที่บริษัทจดทะเบียนนำส่งกรมสรรพากรในช่วง 3 ปี หลังจากเข้าจดทะเบียนซื้อขายฯ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2.4 เท่าเมื่อเทียบกับในช่วง 3 ปี ก่อนเข้าจดทะเบียน จากความสามารถในการสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น และความโปร่งใสในการทำบัญชีที่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ภาครัฐจัดเก็บจากบริษัทจดทะเบียนแล้ว บริษัทจดทะเบียนยังมีการจ่ายภาษีในรูปแบบต่าง ๆ และไม่รวมถึงภาษีต่าง ๆ ที่ผู้มีส่วนร่วมในตลาดหุ้นไทยได้จ่ายภาษีให้ภาครัฐ อาทิ ภาษีอื่น ๆ และรวมทั้งอากร ที่บริษัทจดทะเบียนจ่ายรวมกว่า 277,000 ล้านบาท ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ประมาณการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กรมสรรพากรจัดเก็บจากการจ้างงานพนักงานของบริษัทจดทะเบียนไทย ในปี 2564 มีมูลค่าสูงถึง 80,325 ล้านบาท หรือ 24% ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งหมดที่สรรพากรจัดเก็บในปี 2564
ภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย ที่หักจากนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อมีการจ่ายปันผล ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงกว่า 249,000 ล้านบาท โดยในปี 2565 ปีเดียวมีการนำส่งภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย รวมสูงกว่า 30,000 ล้านบาท
ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าตลาดหุ้นไทยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมในฐานะผู้มีหน้าที่จ่ายภาษีให้แก่ภาครัฐ
ที่มา : SETNote 8/2566 ตลาดทุนไทย : บทบาทต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยกับการมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีให้ภาครัฐ