I2 แจ้งขายบิ๊กลอต 4.29% ให้กลุ่ม MFEC ช่วงเทรดวันแรก

นายอธิพร ลิ่มเจริญ

I2 ลุยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น mai ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ ตอกย้ำความโปร่งใส  แจ้งเตรียมขายบิ๊กลอตให้กลุ่ม MFEC จำนวน 18 ล้านหุ้น สัดส่วน 4.29% ในวันแรกที่เข้าเทรด ราคาเดียวกับที่เสนอขายไอพีโอ ในฐานะ Strategic Partner ยันไม่กระทบนโยบายดำเนินธุรกิจและโครงสร้างบริหาร

วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) I2 เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภายในไตรมาส 3/2566

ทั้งนี้ในวันแรกของการเข้าเทรด กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะดำเนินการขายหุ้นที่ถืออยู่จำนวน 18 ล้านหุ้น บนกระดานซื้อขายรายใหญ่ (Big lot) ในราคาไอพีโอ ให้แก่บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้กลุ่มของ MFEC คงสัดส่วนการถือหุ้นใน I2 ที่ระดับ 15% ต่อไป ในฐานะ Strategic Partner เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกันในอนาคต

ทั้งนี้ SGV ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ MFEC ถือหุ้น 100% จะเข้าทำธุรกรรมซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ประกอบด้วย นางอัญชลี แก้วบรรพต, นายอธิพร ลิ่มเจริญ, นายไพฑูรย์ ประมวลชัยกุล และนายยุทธชัย ทูลพันธ์ รวมกันจำนวน 18 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.29% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO โดยราคาซื้อขายเป็นราคาเดียวกับที่เสนอขายไอพีโอ

“เรื่องการขายบิ๊กลอต 4.29% ให้แก่กลุ่ม MFEC ในวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาด mai ได้เปิดเผยข้อมูลไว้ในไฟลิ่งที่นำเสนอต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ทราบอยู่แล้ว และต้องการให้นักลงทุนรับรู้ข้อมูลโดยทั่วกันด้วย”

Advertisment

โดยทาง I2 เชื่อมั่นว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะส่งผลเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจและแผนการเติบโตของบริษัทในอนาคต และการได้จับมือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับ MFEC สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพการทำธุรกิจและการเติบโตในอนาคตที่จะขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และนโยบายบริหารจัดการของบริษัทแต่อย่างใด

อนึ่ง SGV เป็นบริษัทย่อยที่ MFEC ถือหุ้นในสัดส่วน 100% มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 5,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดย SGV จะลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจหลักของกลุ่ม MFEC