MTC เตรียมขายหุ้นกู้ให้นักลงทุนทั่วไปดอกเบี้ยสูงสุด 5.00% ต่อปี

MTC

MTC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 2-4 ปี ดอกเบี้ย 4.25-5.00% ต่อปี ขายนักลงทุนทั่วไป ทริสเรทติ้งจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และหุ้นกู้อยู่ในระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เสนอขายระหว่างวันที่ 19-20 และ 24 ตุลาคม 2566 นี้

วันที่ 25 กันยายน 2566 นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงนามรับการสนับสนุนทางการเงิน จากบริษัทเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเยอรมนี (DEG-Deutsche Investitions-und Entwicklungsgesellschaft mbH) และธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) ภายใต้กรอบวงเงิน 5,300 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้ารายย่อยของบริษัทได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น

รวมทั้งบริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป หรือที่เรียกว่า Public Offering ประกอบด้วย

    1. หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 10 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.25-4.40%ต่อปี
    2. หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 9 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.75%-4.90% ต่อปี
    3. หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 8 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.85%-5.00% ต่อปี

โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 19-20 และ 24 ตุลาคม 2566 นี้ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และหุ้นกู้อยู่ในระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566

โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อขยายกิจการของบริษัทที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% และเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้

“การสนับสนุนทางการเงินจาก DEG และ SMBC จะส่งผลให้บริษัทสามารถสานต่อการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างโอกาสทางการเงินอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม พัฒนาความเป็นอยู่ที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมให้เป็นสุข รวมถึงสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน ตามเป้าหมายของสหประชาชาติ (SDGs) ได้อย่างต่อเนื่อง

โดยวงเงินทั้งหมดได้ดำเนินการปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม จนได้รับการรับรองผลการประเมิน ESG MSCI Index ในปี 2566 ที่ระดับ AA ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (Customer Finance)” นายปริทัศน์กล่าว

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ทั้งพักชำระหนี้และเงินดิจิทัล น่าจะช่วยให้ลูกค้าของบริษัทมีสภาพคล่องมากขึ้น โดยนโยบายพักชำระหนี้จะส่งผลดีต่อกลุ่มเปราะบางจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงกลุ่มเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ เมื่อได้รับการพักชำระหนี้ก็มีโอกาสจะนำเงินที่ไม่ต้องชำระหนี้มาสร้างผลผลิตและรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนเงินดิจิทัลก็จะทำให้ลูกค้าของบริษัทฯ มีเงินเหลือและสามารถนำมาชำระหนี้ได้มากขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท