กระทรวงศึกษาธิการ-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง-ธปท.-ก.ล.ต.-คปภ. และ ตลท. ประสานความร่วมมือด้านทางวิชาการและการส่งเสริมความรู้ทางการเงินผ่านระบบการศึกษา
วันที่ 22 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและการส่งเสริมความรู้ทางการเงินผ่านระบบการศึกษา
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 2 พ.ค. 2567
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- นักธุรกิจดัง ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิต
ระหว่างนายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย
บันทึกข้อตกลงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความรู้ทางการเงินเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างยั่งยืน ผ่านการ 1) พัฒนากรอบสมรรถนะทางการเงินสำหรับภาคการศึกษา (Financial Competency Framework for Educational Purpose) เพื่อเป็นแนวทางกำหนดการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมแก่นักเรียนแต่ละระดับชั้นการศึกษา
2) กำหนดเนื้อหาความรู้ทางการเงินที่จำเป็นและสำคัญ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตร เครื่องมือ และสื่อการสอนต่าง ๆ และ 3) ผลักดันให้เกิดเครือข่ายครูแกนนำที่เข้มแข็ง เพื่อยกระดับและส่งต่อความรู้ทางการเงินภายในสถานศึกษาได้ในวงกว้างและยั่งยืน โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและเครือข่ายสัมพันธ์ของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงนี้
การประสานความร่วมมือของ 6 หน่วยงานในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในภาคการศึกษา ที่จะปลูกฝังให้เยาวชนสามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญของเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต การมีความรู้ ทักษะ และค่านิยมทางการเงินที่ถูกต้อง ซึ่งครอบคลุมการมีเป้าหมายทางการเงินที่เหมาะสม มีเงินออมและประกันภัยเพื่อคุ้มครองตนเองเวลาฉุกเฉิน มีเงินและการลงทุนเพียงพอในการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพในทุกช่วงวัยจนถึงวัยเกษียณ
รวมถึงมีการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม เป็นหนี้เท่าที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสามารถชำระคืนได้ รวมถึงมีความรู้เป็นภูมิคุ้มกันจากภัยทางการเงินต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญให้ประชาชนคนไทยมีความเป็นอยู่ทางการเงินที่ดี (financial Well-Being) และช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป