บาทอ่อนค่าเล็กน้อย จับตาข้อพิพาททางการค้าของสหรัฐฯกับประเทศคู่ค้า

ค่าเงินบาท ธุรกิจแลกเงิน
แฟ้มภาพ

“เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังลดลงต่อเนื่อง”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน โดยเงินบาทขยับอ่อนค่าลงกว่าระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางของหลายๆ สกุลเงินในภูมิภาค และแรงขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองของอิตาลี อย่างไรก็ดี เงินบาทสามารถฟื้นตัวกลับมาบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขาย หลังปัญหาทางการเมืองของอิตาลีเริ่มคลี่คลาย และตลาดเปลี่ยนจุดสนใจมาที่ข้อพิพาททางการค้าของสหรัฐฯ และกับประเทศคู่ค้า

ในวันศุกร์ (1 มิ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.98 เทียบกับ 31.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 พ.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (4 – 8 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.80-32.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่สถานการณ์เกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าสำคัญ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคบริการเดือนพ.ค. และคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานเดือนเม.ย. ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ค. ของจีน และดัชนี ISM ภาคบริการเดือนพ.ค. ของประเทศชั้นนำอื่นๆ

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทย ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,719.82 จุด ลดลง 1.23% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับเพิ่มขึ้น 24.02% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 71,452.87 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 458.99 จุด ลดลง 2.04% จากสัปดาห์ก่อน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญกับแรงกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันโลกที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงต้นสัปดาห์ ประกอบกับมีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ดี ดัชนี SET มีแรงหนุนเข้ามาในช่วงสั้นๆ ระหว่างสัปดาห์ หลังราคาน้ำมันโลกกลับมาฟื้นตัวขึ้น แต่ไม่เพียงพอที่จะชดเชยแรงกดดันเพิ่มเติมในช่วงปลายสัปดาห์จากปัจจัยต่างประเทศ ท่ามกลางความกังวลต่อนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติ ก็ยังคงขายสุทธิอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (4 – 8 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,710 และ 1,700 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,725 และ 1,735 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคบริการเดือนพ.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI Composite ของประเทศในแถบยุโรปและญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ค. ของจีน