กรมศุลฯ เริ่มใช้ระบบออนไลน์ในพิธีการศุลกากร 1 ก.ย.นี้ หวังบริการส่งออก-นำเข้า สะดวกขึ้น เตรียมแก้เกณฑ์ระงับคดีใหม่ คุมเข้มกว่าเดิม

กรมศุลฯ เร่งใช้ระบบออนไลน์ในพิธีการศุลกากรกับทุกหน่วยงาน เพื่อบริการส่งออก-นำเข้า สะดวกและประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มใช้บริการ 1 ก.ย.นี้ เตรียมแก้เกณฑ์ระงับคดีใหม่ พร้อมให้โอกาสทำผิดแค่ครั้งเดียว พบทำผิดรอบสองจับส่งฟ้องศาลพิจารณาความผิดทางอาญา

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยในงานสัมมนา “Digital Customs 2018” ว่า ทางกรมศุลกากรจะเริ่มใช้ระบบออนไลน์ในพิธีการศุลกากรกับทุกหน่วยงาน เช่น ระบบการตัดบัญชีใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e – Matching) ระบบบริการพิกัดศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ (Tariff e-Service) ระบบการลงทะเบียนผู้มาติดต่อออนไลน์ (e-register) ฯลฯ ซึ่งเป็นการจัดทำฐานข้อมูล โดยเชื่อมโยงข้อมูลกับหลายหน่วยงานเข้าด้วยกัน เพื่อให้บริการนำเข้าและส่งออกสินค้าสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คาดว่าเริ่มใช้บริการระบบทางออนไลน์ได้วันที่ 1 ก.ย. นี้ นอกจากนี้เตรียมแก้เกณฑ์ระงับคดีใหม่ เพื่อให้ผู้กระทำความผิดสามารถทำผิดได้เพียง 1 ครั้ง ถ้ายังพบกระทำความผิดในครั้งที่ 2 จะใช้ข้อมูลของผู้กระทำความผิดในรอบแรกเพื่อติดแบล็กลิสต์ไว้ และดำเนินการแจ้งสำเนาส่งฟ้องศาลให้พิจารณาความผิดทางอาญา โดยเสียค่าปรับ 2-4 เท่าของราคาสินค้า และจะไม่มีการเจรจาในการระงับคดีของชั้นศุลกากรทั้งสิ้น ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้อง คาดว่าจะออกประกาศดังกล่าวได้เร็วๆ นี้

“ยังมีการตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวศุลกากร โดยใช้บิ๊กดาต้าในการจัดทำข้อมูล เพื่อบริหารความเสี่ยงในการกระความผิดสำแดงสินค้าเท็จและการลักลอบหลีกเลี่ยงหนีภาษี เช่น ถ้าผู้กระทำความผิดเดินทางไป ต่างประเทศ 180 วัน หากมีการเดินทางเข้าออกไปประเทศเดิมซ้ำติดต่อกัน 130-140 วัน ถือว่าผิดปกติ จะมีการขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ เมื่อผู้ที่กระความผิดเดินทางเข้าไทย ทางกรมศุลกากรก็พร้อมดำเนินการตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าทางสนามบินเป็นรายบุคคล” นายกุลิศ กล่าว

สำหรับการพัฒนาบริการของกรมศุลกากรในครั้งนี้ มุ่งเน้นการให้บริการผู้ประกอบการในลักษณะบริการออนไลน์เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย การให้บริการยื่นคำขอลงทะเบียนเป็นผู้ปฏิบัติพิธีการศุลกากรหรือปรับปรุงแก้ไขข้อมูลทะเบียนผู้ปฏิบัติพิธีการศุลกากรของผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก ผ่านอินเตอร์เน็ต ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยระบบการลงทะเบียนผู้มาติดต่อออนไลน์ (e-Register) และการยกเลิกสำเนาเอกสารราชการ (Zero Copy) ซึ่งประชาชนสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวในการติดต่อราชการ, ด้านการให้บริการช่องทางการชำระเงินผ่านธนาคารหรือตัวแทนรับชำระเงิน ด้วยระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคาร/ตัวแทนรับชำระเงิน (e-Bill Payment) โดยสามารถชำระภาษีอากรและภาษีอื่น ๆ เช่น ใบขนสินค้า, ใบสั่งเก็บเงิน และใบแจ้งหนี้ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการพิธีการทางศุลกากร และด้านการให้บริการตรวจสอบและติดตามสถานะการผ่านพิธีการใบขนสินค้า (Import-Export Declaration), บริการตรวจสอบและติดตามการรายงานยานพาหนะเข้า-ออกและบัญชีสินค้า (Manifest), บริการตรวจสอบและติดตามสถานะการผ่านพิธีการใบกำกับการขนย้ายสินค้า (Goods Transition Control List), บริการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนผู้มาติดต่อ (Customs Registration), บริการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร (e-Tax Incentives Registration), บริการตรวจสอบประวัติการชำระค่าธรรมเนียมศุลกากร และรายการค้างชำระ (Customs Fee), บริการตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินคืน (Transfer Money), บริการตรวจสอบและจัดพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน (e-Bill), บริการตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของไปรษณียภัณฑ์ (Postal Parcel) และบริการตรวจสอบข้อมูลใบขนสินค้า สำหรับหน่วยงานผู้ออกใบอนุญาต (OGA Declaration) ด้วยระบบ e-Tracking