ธ.ก.ส.นำร่องขจัดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ตามนโยบายกระทรวงการคลัง มุ่งเน้นปรับวิธีคิด สร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ พร้อมปล่อยสินเชื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินป้องกันการก่อหนี้รอบใหม่
วันที่ 21 สิงหาคม ห้องประชุมวี-วัน 1-2 โรงแรมวี-วัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบสำหรับเกษตรกรและครอบครัว โดยให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อนำไปชำระหนี้สินนอกระบบ เป็นการลดภาระทางการเงินให้กับเกษตรกร
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
โดย ธ.ก.ส.เตรียมวงเงินกู้ไว้รวม10,000 ล้านบาท ให้กู้สูงสุดได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท กรณีใช้บุคคล
ค้ำประกัน และสูงสุดไม่เกิน 150,000 บาท กรณีใช้ที่ดินจำนองค้ำประกัน คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน หรือ ร้อยละ 12 บาทต่อปี ผลดำเนินงานปัจจุบันจ่ายสินเชื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้แล้ว 40,857 ราย เป็นเงินสินเชื่อ 3,978 ล้านบาท ซึ่งนอกจากการนำหนี้นอกระบบ ให้เข้ามาอยู่ในระบบแล้วธ.ก.ส.ยังมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนวิธีคิด ในการดำเนินชีวิตของเกษตรกรด้วย การให้ความรู้ การทำบัญชีครัวเรือน การประหยัดอดออม การสร้างรายได้จากอาชีพเสริม เช่น การทำกระยาสารท การทำข้าวเม่า ผ้าห่ม เป็นต้น
ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหามีความยั่งยืนมากขึ้น และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกษตรกร กลับไปก่อหนี้นอกระบบขึ้นอีก ธกส.ได้เตรียมวงเงินสินเชื่ออีกจำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรดังกล่าวสามารถกู้เงินกรณีมีความจำเป็น เช่น ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินในครัวเรือนต่างๆ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น โดยมีการผ่อนคลาย หลักประกัน เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ปัจจุบัน จ่ายสินเชื่อนี้แล้วจำนวน 2,780ล้านบาท ช่วยเกษตรกรได้จำนวน 58,352ราย
“สำหรับจังหวัดนครราขสีมา ธ.ก.ส.จะดำเนินการเป็นจังหวัดนำร่องในการขจัดหนี้นอกระบบให้เป็น
ศูนย์ตามนโยบาย ของกระทรวงการคลังด้วยการเปิดจุดบริการ ให้คำปรึกษาแนะนำ โดยมุ่งเน้นเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย ที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย และแจ้งว่ามีหนี้นอกระบบ สำหรับการดำเนินการจะมีการให้สินเชื่อเพื่อนำหนี้นอกระบบ ให้เข้ามาอยู่ในระบบ มีการอบรมให้ความรู้ เกษตรกรเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการดำเนินชีวิตโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวปฏิบัติ รวมทั้ง การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน กรณีจำเป็นเพื่อป้องกัน มิให้เกษตรกรหวนกลับไปเป็นหนี้นอกระบบอีก ทั้งนี้จะทำงานร่วมกับส่วนงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานกองทุนหมู่บ้าน ฯ โดยใกล้ชิดเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้” นายอภิรมย์กล่าว