“บมจ.วีรันดา รีสอร์ท” (VRANDA) จ่อขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 75 ล้านหุ้น นำเงินขยายธุรกิจชำระคืนเงินกู้และเป็นทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตในอนาคต จองซื้อ พ.ค.62 นี้
นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 23.46 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทั้งนี้ วีรันดา มีวัตถุประสงค์การใช้เงิน โดยจะระดมทุนเพื่อนำไปใช้ ขยายธุรกิจของบริษัทฯ ชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่ง วีรันดา ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดพักอาศัย และธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ จึงได้ขยายธุรกิจไปสู่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทโครงการอาคารชุดพักอาศัยในบริเวณที่ติดกับโรงแรมและมีโครงการล่าสุดที่อยู่ระหว่างสร้าง คือ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน มูลค่าโครงการประมาณ 2,462 ล้านบาทคาดจะสามารถรับรู้รายได้ได้ภายในปี 2563
นอกจากนี้ วีรันดา ยังได้ขยายสู่ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ประกอบด้วย ร้านอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อ Skoop Beach Cafe สาขาพัทยา และสาขาหัวหิน และร้านเครื่องดื่ม และขนมหวาน ภายใต้ชื่อ KOF สาขาสาทร และทองหล่อ และบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาร้าน KOF อีก 1 สาขาในช่วงปลายปี 2562 และนอกจากนี้ ภายในไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดร้าน Skoop & Co. ที่โครงการ เจ อเวนิว ทองหล่อ และที่โครงการ เดอ มาร์เช่ จังหวัดเชียงใหม่และร้านชานมไข่มุก The Alley ที่โครงการ เดอ มาร์เช่ จังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะต้องใช้เงินทุนทั้งหมดประมาณ 12 ล้านบาท
“ช่วงระหว่างปี 2559-2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของรายได้รวมที่ 41.7% ต่อปี ขณะที่กำไรขั้นต้นมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณ 49.3% โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากกิจการโรงแรม ทั้งนี้ เรามองว่ากิจการโรงแรมมีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต เนื่องจากยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายๆ แห่งที่เป็นโอกาสให้บริษัทฯ เข้าไปลงทุน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้ในอนาคต และเชื่อว่านี่จะทำให้นักลงทุนสามารถเชื่อมั่นในหุ้น VRANDA ได้” นายวีรวัฒน์ กล่าว
ด้านนายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 23.46 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ และจะมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น ไม่เกิน 1,598,408,360 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 319,681,672 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท/หุ้น
