SET เข้าสู่โหมดชะลอตัวแต่ไม่รุนแรง นลท.หวังมาตรการกระตุ้น ศก.หนุนตลาด

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ นักกลยุทธ์การลงทุนอิสระ เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทย (26 มิ.ย.62) ว่า แม้ว่าเมื่อวานตลาดจะเริ่มดีดตัวกลับมาหลังจากชะลอมา 2 วัน แต่วันนี้ประเมินว่าตลาดอาจจะเข้าสู่โหมดชะลอตัวอีกแต่ไม่น่าจะรุนแรง บริเวณ 1,710 จุด ไม่น่าจะต่ำไปกว่านี้ และบริเวณ 1,740 จุด ยังเป็นเป้าหมายสำหรับรอบนี้อยู่ โดยกลยุทธ์ลงทุนเน้นหุ้น Domestic Play เนื่องจากการยื่นทูลเกล้ารายชื่อคณะมนตรี ยังไม่ออกมา แต่เชื่อว่าน่าจะออกมาช่วงต้นเดือน ก.ค. และนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันมาแล้วว่ากลางเดือน ก.ค.จะได้รัฐบาลใหม่ ดังนั้นสิ่งที่คาดหวังคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมา ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่รัฐบาลจะทำได้ง่ายที่สุดคือ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ประชาชน และน่าจะทำให้การอุปโภคบริโภคคึกคัก จึงเน้นหุ้น Domestic ต่อเนื่อง ได้แก่ CPALL-ADVANC-STEC-WHA

ส่วนทิศทางตลาดหุ้นตลาดสหรัฐ ดูเหมือนเมื่อวานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐส่งสัญญาณชะลอตัว โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดร็อปลงอาจจะเป็นอีกแรงกดดันหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐาน ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยที่แรงๆ ออกมา เพียงแต่พูดว่าการเมืองไม่มีผลต่อการตัดสินใจของเฟด แต่ถ้ามาพิจารณาสัญญาณเศรษฐกิจชะลอ เชื่อว่าตลาดยังคงมองว่าเฟดยังมีโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยอยู่ ซึ่งดูได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวลดลงอยู่ จึงยังไม่ได้มีสัญญาณลบอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่น่าติดตามขณะนี้คือกระแสเงิน ปรากฎว่าค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าค่อนข้างต่อเนื่อง ในขณะค่าเงินหยวนของจีนพลิกกลับมาแข็งค่า รวมถึงค่าเงินบาทของไทยที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง ลดระดับ 31 บาทลงมา และทำ New Low ในรอบปี ซึ่งสามารถสะท้อนว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังไม่รุนแรง เพราะถ้ารุนแรงค่าเงินหยวนของจีนคงจะอ่อนค่าไปแล้ว จึงสะท้อนมุมมองว่าตลาดมีโอกาสเก็งกำไรกับการเจรจาการประชุม G20 ที่ “ทรัมป์” และ “สี จิ้น ผิง” มีการนัดพบกัน ก็เชื่อว่าผลที่ออกมาจะคล้ายๆ กับเมื่อปลายปีที่แล้ว คือ ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเพียงแต่จัดตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อเจรจากันใหม่อีกรอบหนึ่ง และเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้ามูลค่า 3 แสนล้านเหรียญออกไปก่อน ส่วนการขึ้นภาษีนำเข้า 2 แสนล้านเหรียญที่เริ่มไปแล้วก็อาจจะมีการลดระดับลงมา ซึ่งเป็นข่าวดีที่รออยู่ในช่วงปลายสัปดาห์นี้