ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (7 พ.ย.) ที่ระดับ 30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.25-30.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินฝั่งสหรัฐพบกับแนวต้าน ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเพียง 0.07% หลังแหล่งข่าวส่งสัญญาณว่าอาจมีการตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกันในเดือนหน้าแทนที่จะเป็นเดือนนี้ นักลงทุนบางกลุ่มเลือกที่จะกลับเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยก่อน ผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปี จึงปรับตัวลง 3.7bps มาที่ระดับ 1.82%
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันกลับมีความเคลื่อนไหวในเชิงลบ เมื่อบริมาณน้ำมันดิบสำรองในสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.9 ล้านบาร์เรล ชี้ว่าปริมาณการบริโภคไม่สูงอย่างที่คิด ขณะเดียวกันกลุ่มโอเปกก็ส่งสัญญาณว่าอาจไม่มีการลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมในปีหน้า กดดันราคาน้ำมันดิบลงถึง 1.3%
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ในคืนที่ผ่านมา ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมากนัก เพราะนักลงทุนกำลังจับตาทิศทางการเจรจาการค้า ขณะเดียวกันภาพเศรษฐกิจยุโรปก็ไม่ได้ฟื้นตัว ส่วนใหญ่จึงเลือกถือดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแม้บอนด์ยีลด์จะปรับตัวลง
“ฝั่งเงินบาทต้องติดตามความเคลื่อนไหวต่อจากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินที่มีมติ “ลดดอกเบี้ย” ลงมาที่ระดับ 1.25% และออกมาตรการผ่อนคลายเงินทุนไหลออก เราเชื่อว่าทั้งสองอย่าง ไม่ใช่นโยบายที่สามารถหวังผลให้เงินบาทอ่อนค่าได้มากในปัจจุบัน เพราะตลาดยังคงมีความเชื่อว่าเงินบาทปลอดภัยกว่าสกุลเงิน Emerging Markets อื่นๆ และผู้ประกอบการไทยยังมีความต้องการเงินบาทในระดับสูง” ดร.จิติพลกล่าว
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดเป็นความพยายามที่จะประคองเศรษฐกิจไทย และเพิ่มแรงหนุนให้เงินบาทอ่อนค่าได้ง่ายขึ้นในอนาคต ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะทำให้ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมีสภาพคล่องมากขึ้น และน่าจะลดบทบาทการแทรกแซงค่าเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยลงได้ในระยะยาว