นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ก.พ.63 ว่า ช่วงเช้าวันนี้เซนติเมนต์เชิงลบค่อนข้างมาก ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดปรับลดลงค่อนข้างแรง แต่ทั้งนี้ดูเหมือนตลาดหุ้นไทยอาจจะไม่ได้ปรับตัวลงรุนแรง เริ่มเห็นการฟื้นตัวของทั้งตลาดหุ้นเกาหลีกับตลาดหุ้นฮ่องกงที่พลิกกลับมาในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ก็เป็นบวก เพราะฉะนั้นแรงกดดันจากการปรับลดลงของตลาดหุ้นจีนราว 7% คงกระทบได้ไม่มาก โดยตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) จึงอาจไม่ลงไปต่ำกว่า 1,500 จุด อย่างไรก็ดีมองความเสี่ยงที่ระดับ P/E 15.5 เท่า ดัชนีบริเวณ 1,488 จุด ในระยะถัดไป
“แม้ว่าบ้านเราเมื่อวันศุกร์จะมีประเด็นลบเรื่องการพบผู้ป่วยไทยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในประเทศรายแรก ทำให้กดราคาหุ้นในช่วงบ่ายลง แต่เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมามีข่าวดี ตัวผู้ป่วยคนไทยอาการดีขึ้นและผู้ใกล้ชิดคนขับแท็กซี่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อไวรัส และแพทย์โรงพยาบาลราชวิถีก็พบแนวทางการรักษา ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดี ดังนั้นภาพ SET คงปรับไม่ได้ลงไปเยอะ แกว่งตัวในกรอบไม่ต่ำกว่า 1,500 จุด ดีไม่ดีอาจฟื้นไปสู่ระดับ 1,520 จุด”
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
กลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้เน้นเก็บหุ้นผูกขาด (Monopoly) เช่น กลุ่มสนามบิน AOT และกลุ่มหุ้นปันผลดีและราคาลงมาตามตลาด ที่เด่นๆ คือ KKP-LH-SPALI และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าค่อนข้างแรง มองกลุ่มหุ้น CPF-HANA-KCE
สัปดาห์นี้ต้องติตตามยอดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตของไวรัสโคโรน่า เนื่องจากวันที่ 8 ก.พ. จะเป็นวันที่ครบ 14 วันที่ทางการจีนปิดเมืองควบคุมการติดเชื้อ ซึ่งหากจำนวนผู้ป่วยมีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง จะสะท้อนภาวะการติดเชื้อเบาบางลงไปด้วย โดยตลาดคาดการณ์กันว่าตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.-8 ก.พ.63 การติดเชื้อจะต้องน้อยลง
นอกจากนี้ติดตามการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อาทิ ADVANC รวมถึงจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
