ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (9 เม.ย.) ที่ระดับ 32.72 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 32.80 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ระหว่าง 32.60-32.80 บาทต่อดอลลาร์
โดยในคืนที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐปรับตัวบวกขึ้นต่อ 3.4% จากข่าวดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแรงส่งจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นถึง 10.8% มาที่ระดับ 26.2 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้วยความหวังว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก จะสามารถหาข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตได้ในวันนี้
- กรุงไทย เตือนลูกค้าอัพเดต Android เวอร์ชั่นล่าสุด ก่อนใช้แอปไม่ได้
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- กรุงไทย ปิดระบบ-แอป Next 11-12 และ 14 พ.ค. นี้ เช็กรายละเอียด
ขณะเดียวกันความชัดเจนทางการเมืองก็สูงขึ้นเมื่อนายเบอร์นี่ แซนเดอร์ส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสังกัดเดโมแครต ถอนตัวจากการแข่งขัน ทำให้เหลือเพียงนายโจ ไบเดน ที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ช่วงปลายปีนี้
ไม่เพียงเท่านั้น ในฝั่งนโยบายเศรษฐกิจ ก็เริ่มมีการเตรียมพร้อมเพื่อเปิดทำการภาคธุรกิจ พร้อมกับที่รัฐบาลกลางสหรัฐกำลังจะมีนโยบายการคลังประคองเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมกับฝั่งการเงิน ที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ส่งสัญญาณว่าอาจใช้นโยบายกำหนดระดับของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหรือ Yield Curve Control ไปพร้อมกันด้วย
ซึ่งแตกต่างกับฝั่งของยุโรปที่ยังไม่สามารถหาข้อตกลงในการใช้นโยบายการคลังร่วมกันภายในภูมิภาคได้ ส่งผลให้ดัชนี Euro Stoxx 50 ปรับตัวลงเล็กน้อย -0.22%
อย่างไรก็ดี ฟากตลาดเงิน ดูจะไม่ได้หวือหวาเหมือนหุ้น โดยดอลลาร์แกว่งตัวบวกเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก และสกุลเงิน Commodity อย่าง รูเบิลรัสเซีย (RUB) ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และเรอัลบราซิล (BRL) เป็นสามสกุลเงินที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น 2.5-3.0% ในช่วงห้าวันทำการที่ผ่านมา
“ฝั่งของเงินบาท ภาพรวมก็แข็งค่าขึ้น ในระหว่างวันก็ซื้อขายในกรอบแคบลงด้วย ภาพดังกล่าวชี้ว่าปัญหาสภาพคล่องคลี่คลายลง และเงินบาทอาจผ่านจุดที่อ่อนค่าที่สุดของปีนี้แล้ว ระยะต่อไปต้องจับตาไปที่ความเสี่ยงการปรับฐานของตลาดหุ้น ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจะเป็นประเด็นสุดท้ายที่สามารถกดดันให้เงินบาทอ่อนค่ากลับไปได้” ดร.จิติพลกล่าว