ผู้ลงทุน “ทริกเกอร์ฟันด์” เฮ! รอรับเงินกำไร มอร์นิ่งสตาร์ชี้อานิสงส์หุ้นไทยพุ่งแรง ดัน 20 กองทะลุเป้าหมายผลตอบแทน 5-8% รวมมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในปีนี้ คาดเทรนด์ออก “กองทริกเกอร์ใหม่” แผ่ว ชี้ บลจ.เน้นขายกองทุนแฝด “LTF-RMF” แทนรับโค้งท้ายปี “ทิสโก้” โล่งปิดซีรีส์ทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยหมดเกลี้ยง 25 กองทุนยอดรวม ระบุช่วงดัชนีพีกหนุนกองทริกเกอร์แตะถึงเป้า 6 กองทุนรวด
นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นับตั้งแต่วันที่ 1-19 ก.ย.นี้พบว่ามีกองทุนรวมประเภทตั้งเป้าหมายระดับผลตอบแทนภายในระยะเวลากำหนด (ทริกเกอร์ฟันด์) ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยสามารถทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายแล้วจำนวน 20 กองทุน มูลค่ารวมประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยที่ระดับ 5-8% ถือว่ามีจำนวนกองที่ทริกเกอร์และมูลค่ารวมสูงที่สุดด้วย
- กรุงไทย ปิดระบบ-แอป Next 11-12 และ 14 พ.ค. นี้ เช็กรายละเอียด
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- กรุงไทย เตือนลูกค้าอัพเดต Android เวอร์ชั่นล่าสุด ก่อนใช้แอปไม่ได้
โดยปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้หลายกองทุนข้างต้นทำได้ตามเป้าหมายผลตอบแทนนั้น เป็นผลมาจากช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุแนวต้านใหญ่ที่ระดับ 1,600 จุดในช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นส่วนใหญ่เคลื่อนไหวขึ้นตามค่อนข้างมาก และผลักดันให้ภาพรวมในปีนี้ (ตั้งแต่ต้นปีถึงกลาง ก.ย. 2560) มีทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นไทยปิดกองแล้วทั้งสิ้น 34 กองทุน มีมูลค่ารวมกว่า 3,650 ล้านบาท โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ปิดกองได้มากสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บลจ.ทิสโก้, บลจ.ยูโอบี และ บลจ.ธนชาต
สำหรับปัจจุบันยังคงมีทริกเกอร์ฟันด์ที่ยังเหลือจำนวน 24 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 5,300 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2556- 2558 ขณะที่ปีนี้มีทริกเกอร์ฟันด์ที่เปิดกองใหม่เพียง 1 กองทุนเท่านั้น ได้แก่ กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ของ บลจ.เอ็มเอฟซี มูลค่าราว 200 ล้านบาท
“แนวโน้มกองทุนทริกเกอร์หุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ คงไม่คึกคักมากนัก เชื่อว่ากลุ่ม บลจ.ที่จะมาเร่งเปิดกองทุนใหม่คงน้อยลง เนื่องจากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แต่ละ บลจ.น่าจะไปเน้นขายกองทุน LTF (กองทุนรวมประเภทกองทุนรวมหุ้นระยะยาว) และ RMF (กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ) มากกว่าทริกเกอร์ฟันด์ ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันก็ถือว่าปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงมากแล้ว” นายกิตติคุณกล่าว
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-8 ก.ย. 60 หลังหุ้นไทยทะลุ 1,600 จุด บริษัทสามารถบริหารกองทุนทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ ซึ่งเป็นทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยให้ถึงเป้าหมายแล้วจำนวน 6 กองทุนรวด มูลค่ารวม 406 ล้านบาท อาทิ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทยอิควิตี้ ซีรีส์ 15, 17, 18, 19, 20 และ 24 ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทได้ปิดกองทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยไปครบหมดทุกกองทุนแล้ว
ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงปี 2551 บริษัทได้ออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยทั้งหมด 25 กองทุน ซึ่งเป็นกองทริกเกอร์ที่ทำได้ตามเป้าหมายถึง 24 กองทุน แยกเป็นทริกเกอร์ฟันด์ได้ตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด จำนวน 16 กองทุน และเป็นกองทริกเกอร์ที่ทำได้ตามเป้าหมายแต่นอกกรอบที่กำหนดระยะเวลาลงทุน มีจำนวน 8 กองทุน ส่วนอีก 1 กองทุน ไม่ถึงเป้าหมายและได้เลิกกองทุนไปแล้ว
“หลังดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวแรงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.จนถึงปัจจุบัน ทำให้กองทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยของเราถึงเป้าหมายจำนวน 6 กองทุนรวด และส่งผลให้ทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยที่เราออกมาทั้งหมดจำนวน 25 กองทุนได้ถึงเป้าหมายเกือบทั้งหมด” นายสาห์รัชกล่าว
