ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (22 เม.ย.) ที่ระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน โดยกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวระหว่าง 32.45-32.65 บาทต่อดอลลาร์
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
ทั้งนี้ ในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) ดัชนีตลาดหุ้น S&P500 ของสหรัฐปรับตัวลงถึง 3.07% และในยุโรป ดัชนีหุ้น Euro Stoxx 50 ก็ปรับตัวลงถึง 4.06% จากความกังวลกับทิศทางของราคาน้ำมันดิบที่ยังคงย่ำแย่ แม้ล่าสุด ราคาน้ำมันดิบ WTI จะกลับมายืนในแดนบวกที่ 14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งสัญญาณว่าจะมีการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจพลังงานในสหรัฐ
นอกจากหุ้น ฝั่งตลาดตราสารหนี้ (บอนด์) ก็เคลื่อนไหวผันผวน โดยยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง 2.8bps มาที่ระดับ 0.57% พร้อมกับยีลด์เยอรมันที่แตะระดับ -0.48% สวนทางกับยีลด์อิตาลีและสเปนอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้น 10-20bps ซึ่งเกิดจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) ที่สุดท้ายต้องการให้แต่ละประเทศ หาแหล่งเงินทุนโดยใช้เครดิตของตัวเองมากกว่ารวมกันเป็นสหภาพยุโรป
ภาพตลาดดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าลงก่อน เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ทั้งหมดในช่วงค่ำ แต่สกุลเงินที่ เคลื่อนไหวตามสินค้าโภคภัณฑ์ก็เริ่มปรับตัวขึ้นได้ ทันทีที่ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นมายืนในแดนบวก ดัชนีดอลลาร์ (DXY) จึงทรงตัวที่ระดับ 100จุด
“ฝั่งของเงินบาท ก็ทรงตัวอยู่ระดับเดิม โดยมีความเคลื่อนไหวไม่มาก จุดที่น่าสนใจคือตัวเลขการค้าล่าสุด ที่ทั้งการนำเข้าและส่งออกเดือนมีนาคม ดูจะได้รับผลกระทบไม่มากอย่างที่เป็นกังวล ซึ่งเกิดจากภาพรวมการบริโภคในฝั่งเอเชียที่ชะลอตัวไปก่อนแล้วในช่วงต้นปี อย่างไรก็ดี ในระยะยาวยังคงต้องจับตาภาพการค้าที่คาดว่าจะชะลอตัวลง 12.9% ในปี 2020 ซึ่งจะทำให้ความผันผวนของเงินบาทปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต” ดร.จิติพลกล่าว
