ค่าเงินบาท​ทรงตัวที่​ 31.03 บาท/ดอลลาร์​ สัปดาห์​นี้​ลุ้นตัวเลขส่งออก-มติ กนง.

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิด​เผ​ยว่า​ ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้​ (22​ มิ.ย.)​ ที่ระดับ 31.03 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ​ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน โดย​กรอบเงินบาทวันนี้อยู่​ระหว่าง​ 30.93-31.13 บาทต่อดอลลาร์​ ส่วน​กรอบเงินบาทรายสัปดาห์อยู่ที่​ 30.80-31.30 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้​ ในสัปดาห์นี้ประเด็นที่น่าสนใจกลับมาอยู่ฝั่งไทย​ โดยในวันพุธ​ (24​ มิ.ย.)​  จะมีการรายงานตัวเลขนำเข้าส่งออก ที่คาดว่าจะกลับลงไปหดตัว -5.0% และ -18% ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้มีการเกินดุลการค้าต่อเนื่องอีก 2.4 พันล้านดอลลาร์

ด้านนโยบายเศรษฐกิจ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ และเชื่อว่าจะไม่มีการลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในปีนี้ เว้นเสียแต่ว่าตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศจะไม่ฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี

ส่วนในฝั่งสหรัฐ สัปดาห์นี้จะมีการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (durable goods orders) ประจำเดือนพฤษภาคม คาดว่าจะขยายตัว 10% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอากาศยาน

ขณะที่ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ (Initial jobless claims) ก็จะทยอยปรับตัวลดลงใกล้เคียงระดับ 1ล้านตำแหน่งในสัปดาห์นี้ ถือว่าเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันในวันศุกร์ (26​ มิ.ย.)​ จะมีการรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากมหาลัยมิชิแกน (University of Michigan consumer sentiment) คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อยจากระดับ 78.9 จุด มาที่ระดับ 79.2 จุด หลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาเปิดทำการได้บ้าง

ฝั่งของค่าเงินบาท สัปดาห์นี้จะพบกับแรงบีบให้แกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งจากทิศทางของเศรษฐกิจที่อาจส่งผลให้ตลาดการเงินพักฐาน และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินที่คั่นอยู่ระหว่างสัปดาห์ แต่หลังจากนี้ เรามองว่าประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่ทิศทางของค่าเงินดอลลาร์เป็นหลัก

“แม้ปัจจุบันเราจะเห็นว่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวตามมุมมองการเปิดหรือปิดรับความเสี่ยงของตลาดทุน แต่ด้วยภาพการเมืองและแนวโน้มการระบาดของไวรัสที่ยังอยู่ในระดับสูงก็เชื่อว่าในระยะกลางนักลงทุนสหรัฐจะเลือกระจายการลงทุนมาในยุโรปหรือเอเชียมากขึ้น ภาวะดังกล่าวจะหนุนให้เงินบาทมีโอกาสปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้” ดร.จิ​ติ​พล​กล่าว​