“ทีเอ็มโบรคเกอร์” ในเครือธนชาต ลุยธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ตั้งเป้าโตปีละ 50%

“ที เอ็ม โบรคเกอร์” ในเครือธนชาต เตรียมบุกธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต หลังดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัยมา 3 ปีเติบโตสูง 50% ทุกปี ล่าสุดเบี้ยรับปีนี้พุ่งสูง 500 ล้านบาท เล็งตั้งเป้าโตปีละ 50% หวังติด 1 ใน 10 ธุรกิจนายหน้าของประเทศภายใน 5 ปี

ประกันภัย
ชนิตา ขยันตรวจ

วันนี้ (24 ส.ค.2563) นางสาวชนิตา ขยันตรวจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที เอ็ม โบรคเกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 51% และบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 49% เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้เปิดดำเนินธุรกิจเป็นตัวกลางในการจัดหาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและประกันชีวิตมาประมาณ 3 ปี บริษัทประสบผลสำสำเร็จในการดำเนินงานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 50% ทุกปี จากพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนส่งมอบผลิตภัณฑ์ประกันกว่า 40 บริษัท เช่น ธนชาตประกันภัย, วิริยะประกันภัย, ทิพยประกันภัย, เมืองไทยประกันภัย และมีนายหน้าอิสระที่ช่วยขายอีกกว่า 5,000 ราย โดยในปี 2563 บริษัทมีเบี้ยประกันรับอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท นับว่าเป็นยอดเบี้ยรับที่ค่อนข้างสูงสำหรับบริษัทที่เพิ่งเปิดดำเนินการมาได้ประมาณ 3 ปี

ดังนั้นเพื่อขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้าด้านประกันชีวิต และมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครบถ้วนให้กับนายหน้าอิสระ รวมถึงเล็งเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น บริษัทมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจเชิงรุกด้านนายหน้าประกันชีวิตให้มากขึ้น โดยการอาศัยความเชี่ยวชาญของบุคลากรของบริษัทที่มีศักยภาพและมีสัมพันธภาพที่ดีกับเหล่านายหน้าประกันภัยที่ทำธุรกิจกับบริษัทมาก่อน รวมถึงการไปสรรหาและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนายหน้าประกันชีวิตที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณกว่า 30,000 คน

โดยบริษัทตั้งเป้าจะเชิญชวนกลุ่มนี้มาเป็นพันธมิตรให้ได้ประมาณ 30% โดยปีนี้มีแผนสร้างนายหน้าขยายไปทั่วประเทศ ด้วยวิธีการสร้างนายหน้าในพื้นที่และรับสมัครผ่านเวบไซด์ของบริษัท https://www.tm-broker.co.th/ เพื่อให้มีที่ปรึกษาประกันภัย (T M Advisor) ครอบคลุมทุกจังหวัด และจะใช้ช่องทางนายหน้าอิสระเหล่านี้ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจให้ลูกค้าต่อไป โดยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า บริษัทจะสรรหาจากบริษัทประกันชีวิตที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทที่มีอยู่ 6 บริษัท ประกอบด้วย 1.เอ็ม บี เค ไลฟ์ ประกันชีวิต 2.กรุงเทพประกันชีวิต, เมืองไทยประกันชีวิต, อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต, ทิพยประกันชีวิต, ไทยซัมซุงประกันชีวิต

นางสาวชนิตา กล่าวว่า แม้ในปีนี้สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกจะอยู่ในภาวะตกต่ำเนื่องจากการระบาด COVID-19 แต่เมื่อมีการผลิตวัคซีนออกมาป้องกันโรคได้สำเร็จเศรษฐกิจก็จะค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว ประกอบกับผู้คนก็จะหันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น รวมถึงจะมีการสรรหาผลิตภัณฑ์ด้านการคุ้มครองชีวิตมากขึ้น ซึ่งคาดว่าการที่บริษัทมีพันธมิตรที่เป็นบริษัทประกันภัยและประกันชีวีต การมีผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วนทั้งผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์ด้านการประกันชีวิตกลุ่ม รวมถึงการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายหน้าอิสระที่จะช่วยบริษัทฯ ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า จะทำให้ ที เอ็ม โบรคเกอร์ เป็นองค์กรหนึ่งที่จะประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยบริษัทตั้งเป้าในการเติบโตของธุรกิจปีละ 50% และมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 ของธุรกิจนายหน้าของประเทศให้ได้ภายใน 5 ปี