หุ้น-การเงิน

ก.ล.ต.แก้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ยกเลิกเงื่อนไขหุ้นกู้

ก.ล.ต. เปิดเฮียริ่งเตรียมแก้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ปี 2535 เกี่ยวกับหุ้นกู้ 4 ปัจจัยหลัก “ยกเลิกกำหนดมูลค่าขั้นต่ำ-อนุญาตให้หักกลบลบหนี้ได้-ผู้ออกแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ภายหลังได้รับอนุญาตออกหุ้นกู้ได้-เพิ่มบทบัญญัติรองรับผู้แทนผู้ถือพันธบัตรที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลมิได้ค้ำประกัน” เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการระดมทุนของผู้ออกและเสนอขาย และเพิ่มความคุ้มครองผู้ถือหุ้นกู้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณาทบทวน พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และพบว่า บทบัญญัติบางส่วนที่เกี่ยวกับตราสารหนี้อาจไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน อาทิ การกำหนดมูลค่าขั้นต่ำของหุ้นกู้ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงตลาดตราสารหนี้ของผู้ลงทุนรายย่อยที่มีเงินลงทุนจำนวนน้อย ข้อห้ามเกี่ยวกับการหักกลบลบหนี้ (set-off) ที่อาจเป็นการเพิ่มขั้นตอนและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น

ในกรณีที่มีการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อต่ออายุหุ้นกู้เดิม (rollover) และการปรับโครงสร้างหนี้ (refinance) รวมถึงข้อจำกัดเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ที่ต้องแสดงความจำนงตั้งแต่ขออนุญาตไม่สามารถแต่งตั้งเพิ่มภายหลังได้ และไม่มีบทบัญญัติรองรับการแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือพันธบัตรที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่รัฐบาลมิได้ค้ำประกัน ซึ่งจะเป็นกลไกช่วยเพิ่มความคุ้มครองผู้ถือหุ้นกู้หรือพันธบัตรดังกล่าว
ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดที่จะเสนอแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ตามรายละเอียด ดังนี้

(1) การยกเลิกการกำหนดมูลค่าขั้นต่ำของหุ้นกู้ (100 บาทต่อหน่วย) แต่ผู้ออกตราสารหนี้ต้องกำหนดให้มูลค่าของหุ้นกู้ที่เสนอขายมีมูลค่าเท่ากัน

(2) การอนุญาตให้สามารถหักกลบลบหนี้ได้ สำหรับกรณีการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อต่ออายุหุ้นกู้เดิมและการปรับโครงสร้างหนี้

Advertisment

(3) ผู้ออกตราสารหนี้สามารถแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ภายหลังได้รับอนุญาตออกหุ้นกู้ได้

และ (4) การเพิ่มบทบัญญัติรองรับผู้แทนผู้ถือพันธบัตรที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลมิได้ค้ำประกัน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=680 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail : [email protected], [email protected] หรือ [email protected] จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563