หุ้นไทยพักตัวอ่อนๆ 1,565-1,575 จุด เงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง-มาตรการรัฐพยุงตลาด

หุ้น-นักลงทุน

ตลาดหุ้นไทยพักตัวอ่อน ๆ ในกรอบ ระหว่าง 1,565-1,575 จุด หลังเงินเฟ้อสหรัฐเร่งตัวขึ้น แต่มาตรการช่วยเหลือจากประกาศคุมเข้ม 10 จังหวัดช่วยจำกัดดาวไซต์ตลาดหุ้น จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้

วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ดัชนี SET Index วันนี้จะมีการพักตัวอ่อน ๆ ในกรอบระหว่าง 1,565-1,575 จุด หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่เร่งตัวขึ้น แต่ตลาดน่าจะถูกจำกัด Downside Risk ด้วยมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐจากการประกาศมาตรการคุมเข้ม 10 จังหวัด ส่วนคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต่อสภาคองเกรส

กลยุทธ์การลงทุน ทางฝ่ายวิจัยยังคงกลยุทธ์ “Selective Play” เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวได้แก่ 1) หุ้นกลุ่มบริหารหนี้เสีย 2) หุ้นรับเงินบาทอ่อนค่า 3) หุ้นรับมาตรการ WFH และการระบาดของ COVID-19 และ 4) หุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 2/64 ออกมาดี

ส่วนวานนี้สหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าตลาดคาดการณ์หลังสหรัฐกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในวงกว้างขึ้น โดยตัวเลข Core CPI เดือน มิ.ย. 64 ออกมาขยายตัว 0.9% เทียบเดือนก่อนหน้า (m-m) และ 4.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (y-y) สูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.4% และ 4.0% (ตามลำดับ)

อีกทั้งยังสูงที่สุดในรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ปี 1991 ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 1.4% และ Dollar Index เริ่มแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง (บาทอ่อนค่าเชิงเปรียบเทียบ) แม้ว่าหลายฝ่ายยังมองการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อสหรัฐเป็นปัจจัยชั่วคราว แต่ปัจจัยนี้ก็เพิ่มความกังวลต่อท่าทีการตัดสินใจนโยบายทางการเงินของ FED

Advertisment

ทั้งนี้ ต้องรอติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดต่อสภาคองเกรสในคืนนี้อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ตลาดคาดว่าพาวเวลจะยังไม่ส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือทำ QE Tapering ออกมาจนกว่าจะมั่นใจการฟื้นตัวของภาคการจ้างงาน

ล่าสุดนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 สะท้อนจาก Fed Watch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ พบว่านักลงทุนคาดการณ์ว่า FED มีแนวโน้ม 100% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ม.ค. 2566 ขณะที่มีแนวโน้ม 90% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. 2565

ทั้งนี้แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย 2 วันล่าสุดจะทรงตัวและปรับลดลงจากระดับสูงสุดเล็กน้อย แต่อัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตยังอยู่ในระดับสูง ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ยังมีอยู่มากและอาจพลิกกลับมาแย่ลงได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ต้องติดตามผลการประกาศคุมเข้มในอีก 14 วันข้างหน้าว่ายอดผู้ติดเชื้อจะชะลอลงหรือไม่

ส่วนการเปิดเมืองหรือผ่อนคลายมาตรการทางฝ่ายวิจัยยังมองว่ามีความเป็นไปได้ยาก รอติดตามการแถลงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนทางเลือก mRNA และ Novavax ที่คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดภายในสัปดาห์นี้ อาจช่วยลดความกังวลต่อสถานการณ์ลงได้บ้าง

Advertisment