EXIM BANK เผย 9 เดือน ปล่อยสินเชื่อสร้างธุรกิจ 1.37 แสนล้านบาท

EXIM BANK เผยผลดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2564 สร้างปริมาณธุรกิจ 137,605 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมีกำไรสุทธิ 822 ล้านบาท ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ส่วน NPL อยู่ที่ 3.71% ชี้มีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกว่า 12,925 ล้านบาท

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564  นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานในช่วงเดือนมกราคมกันยายน 2564 ว่า แม้เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 EXIM BANK ยังสามารถขยายบทบาทการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย สิ้นเดือนกันยายน 2564 EXIM BANK มีสินเชื่อคงค้าง 147,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,450 ล้านบาท หรือ 9.21% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563

ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเพื่อการลงทุน 110,806 ล้านบาท สะท้อนการขับเคลื่อน EXIM BANK สู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนา (Development Bank) และอีก 36,872 ล้านบาทเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า โดยการให้สินเชื่อทั้งหมดของ EXIM BANK ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 137,605 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นปริมาณธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เท่ากับ 50,058 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.38%

ทั้งนี้ สิ้นเดือนกันยายน 2564 EXIM BANK มีวงเงินสะสมสนับสนุนสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น102,296 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อคงค้างจำนวน 65,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.43% หรือ 9,266 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 จากจำนวนนี้เป็นสินเชื่อคงค้างแก่ผู้ประกอบการไทยที่ขยายการส่งออกและการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และตลาดใหม่ (New Frontiers) จำนวน 47,947 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.61% หรือ 8,193 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้รุกตลาดต่างประเทศ

นายรักษ์กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้นำเข้าในต่างประเทศมีโอกาสชำระเงินล่าช้าหรือปฏิเสธการชำระเงินค่าสินค้า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและการลงทุนเท่ากับ 134,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.74% หรือ 9,684 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน EXIM BANK ได้สนับสนุนผู้ประกอบการทั้งในด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน ด้วยการออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาการชำระเงิน และการพักชำระหนี้ รวมทั้งสนับสนุนด้านข้อมูลและความรู้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs สามารถปรับตัวและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ผ่านการให้คำปรึกษาและจัดอบรม/สัมมนาออนไลน์ สิ้นเดือนกันยายน 2564 EXIM BANK ได้ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการประมาณ 10,800 ราย เป็นวงเงินรวมกว่า 68,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม โควิด-19 ยังมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ EXIM BANK มีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) สิ้นเดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ 3.71% โดยมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 5,472 ล้านบาท แต่มีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 12,925 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 236.19%

“9 เดือนแรกของปี 2564 EXIM BANK มีกำไรก่อนสำรองเท่ากับ 1,789 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 822 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 2,162 ล้านบาท จากผลขาดทุนสุทธิ 1,340 ล้านบาทของปี 2563 ทั้งนี้ คาดการณ์ผลการดำเนินงานสิ้นปี 2564 EXIM BANK จะมีกำไรไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ขณะที่ปัจจุบัน EXIM BANK ยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์และเครื่องมือทางการเงินและไม่ใช่ทางการเงินใหม่ อาทิ EXIM Biz Transformation Loan สนับสนุนการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือขยายกำลังการผลิต นำไปสู่การยกระดับมาตรฐานสินค้าส่งออก อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย ผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี

และสินเชื่อเอ็กซิมเพื่อ EEC และเครือข่ายนิคมอุตสาหกรรม สนับสนุนการลงทุนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) นิคมอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจพิเศษ สวนอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิบัตรจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ดอกเบี้ยต่ำสุด 3.25% ต่อปีสำหรับวงเงินกู้ระยะยาว และ 3.75% ต่อปีสำหรับวงเงินหมุนเวียน และสำหรับผู้ประกอบการทั่วไป ดอกเบี้ยต่ำสุด 3.00% ต่อปีสำหรับวงเงินกู้ระยะยาว และ 3.50% ต่อปีสำหรับวงเงินหมุนเวียน ระยะเวลาผ่อนชำระสำหรับวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 10 ปี