เปิดกราฟคริปโทเคอร์เรนซี ที่น่าจับตามองเมื่อ Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐ
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 บลูมเบิร์ก รายงานว่า Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ ท่ามกลางการลดลงของสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเก็บภาษีของสหรัฐ และการปราบปรามอย่างต่อเนื่องของจีนยังคงวนเวียนอยู่
- จีนแบน 3 บริษัทสหรัฐ ห้ามทำการค้า ห้ามผู้บริหารเข้าประเทศ
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ครม.ไฟเขียว เวนคืนที่ดิน สายไหม-คลองสามวา สร้างทางพิเศษส่วนต่อขยาย
บิตคอยน์ มูลค่าสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดลดลงประมาณ 2.5% เหลือ 59,000 เหรียญสหรัฐ ณ เวลา 11:23 น. ในฮ่องกงเมื่อวันพุธที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่ อีเธอเลียมร่วงลง 3.4% สู่ 4,110 เหรียญสหรัฐ สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังพบว่าโทเคนอันดับต้น ๆ ล้วนลดลงอย่างน้อย 10% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
“การย่อลงเล็กน้อยนี้สร้างความเสี่ยงที่น่าดึงดูดใจในการเข้าซื้อจุดต่ำสุด เพื่อดันให้สูงขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” ตามรายงานกลยุทธ์ทางเทคนิคของ Fundstrat
พร้อมกับการระบุว่า “เป้าหมายเข้าซื้อควรเป็นภายในสัปดาห์นี้” เมื่อ Bitcoin ขึ้นไปที่ระดับ 59,862 เหรียญสหรัฐหรือ 57,371 เหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม คริปโทเคอร์เรนซี โดยรวมมีทิศทางที่ดีในปีนี้ แต่ความกังวลเกี่ยวกับบทบัญญัติด้านภาษีในกฎหมายโครงสร้างกฏหมายของสหรัฐอเมริกาและการปราบปรามอย่างต่อเนื่องโดยจีนช่วยให้แรงผลักดันจากการดำเนินการที่แข็งแกร่งในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
ค่าเฉลี่ย 50 วัน
Bitcoin เข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (MA50) ในช่วงที่ร่วงลงในวันอังคาร ซึ่งทำให้แนวรับต่ำกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐในวันอังคาร โดยตัวบ่งชี้ทางเทคนิคนี้กำลังได้รับการทดสอบอีกครั้งในวันพุธที่ผ่านมา
การกลับตัว
อัตรากลับตัววัดจากการประมวลผลของเครือข่าย Bitcoin ฟื้นตัวขึ้นอย่างมากตั้งแต่ช่วงกลางปี ที่จีนเริ่มปราบปรามคริปโทเคอร์เรนซีอีกครั้ง
ระวังช่องว่าง
กราฟฟิโบนัชชี ซึ่งเป็นระดับทางเทคนิคที่สำคัญหลายชุด แสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงดังนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์ที่ XTB Market ให้ความเห็นว่า ความผันผวนที่รุนแรงในตลาดมีแนวโน้มนำไปสู่ผลกระทบเป็นโดมิโนได้ หากมีข่าวเชิงลบเกิดขึ้นอีกและอาจทำให้มีราคาไปสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่
ส่วนนักวิเคราะห์บางคนยังมองว่า ข้อกำหนดการรายงานภาษีใหม่สำหรับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 5.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในกฎหมายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัล
เฮย์เดน ฮิวจ์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอัลฟา อิมแพ็ค ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายกล่าวว่า ตลาดจะได้เห็นร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐได้รับการลงนาม และจะส่งผลให้ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มขายเหรียญออกมา เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบและการเก็บภาษี
