กรมชลประทาน เผยแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำทะเลหนุนสูง รวมกับน้ำเหนือทำให้ริมฝั่งน้ำยกตัวสูงขึ้น เร่งระบายลงสู่อ่าวไทย ชี้หลัง 12 ตุลาคม 2565 หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะทยอยปรับลดการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
วันที่ 11 ตุลาคม 2565 รายงานข่าวจากกรมชลประทาน ระบุสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (11 ตุลาคม 2565) เวลา 14.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 3,054 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ซึ่งจะไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำสะแกกรังอีก 315 ลบ.ม./วินาที เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของบานระบายน้ำและตัวเขื่อนเจ้าพระยา
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
- ศุภวุฒิ สายเชื้อ : แบงก์ชาติเป็นหน่วยงานรัฐ กฎหมายไม่มีคำว่า “อิสระ”
- เปิดราคา Trade In “iPad” ก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่ ลดสูงสุด 23,200 บาท
ระดับน้ำเหนือเขื่อนขณะนี้อยู่ที่ +17.68 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง (ม.รทก) สูงกว่าระดับเก็บกัก 1.18 เมตร (+16.50 ม.รทก.) ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 3,154 ลบ.ม./ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เฉลี่ยอยู่ที่ 3,090 ลบ.ม./วินาที
สำหรับการคาดการณ์ปริมาณน้ำในวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค. 65) ปริมาณน้ำไหลผ่านลุ่มน้ำปิงที่สถานี P.17 อ.บรรพตพิสัย ลุ่มน้ำน่านที่สถานี N.67 อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มลดลง โดยจะทำให้ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มลดลงไปด้วย
ทั้งนี้ หากระยะต่อไปไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม และปริมาณน้ำทางตอนบนเริ่มลดลง กรมชลประทานจะทยอยปรับลดการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากปริมาณน้ำเหนือที่ไหลหลากในแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับในระยะนี้เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายกตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำโดยใช้ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออกอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงเร่งระบายน้ำผ่านคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งสามารถร่นระยะทางการไหลของน้ำจาก 18 กิโลเมตร เหลือเพียง 600 เมตร ลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด